“ฮอนด้า มอเตอร์” ตั้งเป้าจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ถึง 3.5 ล้านคัน ภายในปี 2573 แผนการที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ ค่ายรถจักรยายนต์รายใหญ่สุดของโลก ในแง่ยอดขายรายนี้ กำลังเดินหน้ายกเครื่องสินค้าในเครือ เพื่อรองรับความต้องการยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่เพิ่มมากขึ้น
ผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ ระบุว่า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จะคิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของยอดขายทั่วโลกของบริษัทภายในสิ้นทศวรรษนี้ เทียบกับปัจจุบัน ที่มียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ประเภทนี้อยู่ 200,000 คันต่อปี
ครั้งนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกที่ฮอนด้า ให้ตัวเลขที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลยุทธ์ยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท หลังก่อนหน้านี้ บริษัทเคยประกาศไปแล้วว่า จะเปลี่ยนสายการผลิตรถยนต์ ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปี 2583 ทั้งจะลงทุน 40,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในช่วงทศวรรษหน้า โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถไฟฟ้ามากถึง 30 รุ่น ภายในปี 2573
ฮอนด้า มีแผนที่จะวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก มากกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2568 รวมถึง รุ่นขนาดกะทัดรัด 2 รุ่น ในตลาดเอเชีย ยุโรป และญี่ปุ่น ทั้งยังจะจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่บริษัทเรียกว่า “ฟัน อีวี” (Fun EV) 3 รุ่น ในตลาดสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป ภายใน 3 ปีข้างหน้า
โคเฮอิ ทาเคอูจิ รองประธานบริหารฮอนด้า กล่าวว่า แม้การบรรลุเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน จะยังมีความยากลำบากหลงเหลืออยู่บ้าง แต่บริษัทจะยังยึดมั่นในสถานะ การเป็นผู้นำการผลิตโลกไว้ต่อไป
ฮอนด้ายังวางแผนที่จะทำเงินจากความนิยมรถจักรยานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน โดยจะเปิดตัวรถจักรยานไฟฟ้าหลายรุ่น ที่มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฮอนด้า’ ร่วมทุน ‘ซอฟท์แบงก์-โตโยต้า’ พัฒนาเทคโนโลยีโมบิลิตี้
- ‘ซูซูกิ’ ลงทุนเกือบ 4.2 หมื่นล้านบาท ผลิตรถไฟฟ้าในอินเดีย
- เปิด 5 นโยบาย ‘โจ ไบเดน’ หนุน ‘รถไฟฟ้า’ แดนอเมริกัน