World News

‘ราคาน้ำมัน WTI’ ดิ่งแรงแตะ 90 ดอลล์ กังวลสต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่ง

น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ เมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ราคาร่วงลง 4% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ และน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว บดบังปัจจัยบวกจากการที่ “โอเปคพลัส” มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพียงเล็กน้อย

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ร่วงลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 90.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนตุลาคม ดิ่งลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 96.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

shutterstock 1728250690

ในช่วงแรกนั้น ราคาพุ่งขึ้นขานรับผลการประชุมกลุ่มโอเปคพลัส โดยที่ประชุมมีมติเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 100,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับการเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม ขณะที่เดือนมิถุนายน เพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรลต่อวัน

จากนั้นไม่นาน ราคาก็ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล

EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 926,000 บาร์เรล สู่ระดับ 24.5 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 163,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซลลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo