World News

‘ภาวะไร้เสถียรภาพ-เผชิญหน้าการค้า-เบร็กซิท’ ฉุดศก.โลก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือน การเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน เรื่องเบร็กซิท และความไม่แน่นอนอื่นๆ กำลังเป็นภัยคุกคาม ที่ฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเพิ่มมากขึ้น

imf1

ในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลก “เวิลด์ อิโคโนมิค เอาท์ลุค” ฉบับล่าสุด ที่ไอเอ็มเอฟเปิดเผยในวันนี้ (21 ม.ค.) สถาบันการเงินระหว่างประเทศรายนี้ ได้หั่นตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของโลก สำหรับปี 2562 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.7% ที่ประเมินไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทั้งยังลดตัวเลขคาดการณ์สำหรับปี 2563 ลงมาอยู่ที่ 3.6%

นอกจากนี้ การชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ที่เป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้า และความกังวลเกี่ยวกับตลาดการเงินโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไอเอ็มเอฟประเมินว่า เศรษฐกิจโลกเมื่อปีที่แล้วน่าจะขยายตัวเพียง 3.7% น้อยกว่าที่ประเมินไว้เมื่อเดือนตุลาคมราว 0.2%

ไอเอ็มเอฟเปิดเผยรายงานฉบับล่าสุดนี้ ที่การประชุมประจำปีเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ที่มีบรรดาผู้นำด้านการเงิน และเศรษฐกิจจากทั่วโลกมารวมตัว และที่ประชุมก็ได้เรียกร้องอีกครั้ง ถึงการสร้างความร่วมมือเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ

รายงานฉบับนี้ ยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายรายลงอย่างมาก รวมถึง เยอรมนี อิตาลี และเม็กซิโก ทั้งยังปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของฝรั่งเศสลงไปเล็กน้อย จากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อกั๊กเหลือง ที่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศ

สำหรับในกลุ่มยูโรโซนนั้น ไอเอ็มเอฟได้ลดการณ์ลงมาอยู่ที่ 1.6% ในปีนี้ จากเดิมที่ประเมินไว้ 1.9% ทั้งยังปรับลดกการประเมินเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาลงมาอยู่ที่ 4.5% จากเดิมที่ 4.7%

“ตลาดเกิดใหม่ และเศรษฐกิจกำลังพัฒนา ต้องเผชิญกับบททดสอบ จากสถานการณ์ที่ยากลำบากภายนอกประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า สหรัฐขึ้นดอกเบี้ย เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เงินทุนไหลออก และราคาน้ำมันผันผวน” รายงานระบุ

yuan dollar

อย่างไรก็ดี 2 ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุด ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งที่มีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกมากสุด อย่างจีน และสหรัฐ ไม่ได้โดนทบทวนตัวเลขคาดการณ์แต่อย่างใด ซึ่งไอเอ็มเอฟประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐ จะขยายตัว 2.5% ในปีนี้ และราว 1.5% ในปี 2563 ส่วนจีดีพีจีนน่าจะอยู่ที่ 6.2% ทั้งในปีนี้ และปีหน้า

นอกจากความเสี่ยงเรื่องการค้าแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง ล้วนแต่มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ๆ ชะลอตัวลง

Avatar photo