สหรัฐเผย ปริมาณน้ำมันสำรองฉุกเฉิน สัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2528
กระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ นับถึงวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา น้ำมันดิบในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 469.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดในรอบ 37 ปี และยังถือเป็นการระบายน้ำมันรายสัปดาห์ในปริมาณน้อยที่สุด นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้กำหนดแผนที่จะระบายน้ำมันออกจากเอสพีอาร์ วันละ 1 ล้านบาร์เรล นาน 6 สัปดาห์ เพื่อจัดการกับราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น จนทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งแรง
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม สหรัฐระบายน้ำมันจากคลังสำรองเฉลี่ย 880,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น ไม่ถึง 1 ล้านบาร์เรล ตามแผนที่กำหนดไว้
ขณะที่ ทำเนียบขาว เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เมื่อเดือนกันยายน 2564 สหรัฐมีน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์อยู่ที่ราว 618 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันสำรองนี้ ได้ลดลงมาต่อเนื่อง จากการระบายออกสู่ตลาด เพื่อคุมราคาเชื้อเพลิงในประเทศ ส่งผลให้ในขณะนี้ ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐลดลงราว 40 เซนต์ จากระดับที่ยังไม่มีการระบายน้ำมัน
กระทรวงพลังงานสหรัฐได้เสนอกฎในการคืนน้ำมันดิบให้กับคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ โดยอนุญาตให้มีการทำสัญญาเพื่อซื้อน้ำมันในปีต่อ ๆ ไป ในราคาที่คงที่ และกำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งฝ่ายบริหารเชื่อว่า แผนการนี้จะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำมันในประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เยลเลน’ เผย ‘สหรัฐ’ กำลังเจรจาชาติพันธมิตร หาทางคุม ‘ราคาน้ำมันรัสเซีย’
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- ‘มอร์แกน สแตนลีย์’ ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ เสี่ยงถดถอย 50% แต่มั่นใจ ‘เฟด’ คุมเงินเฟ้อได้