ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงลงกว่า 8% หลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลว่า เศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณถดถอย และการที่จีนมีแนวโน้มจะกลับมาล็อกดาวน์เมืองสำคัญนั้น อาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกทรุดตัวลงด้วย
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม ร่วงลง 8.93 ดอลลาร์ หรือ 8.2% ปิดที่ 99.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ดิ่งลง 10.73 ดอลลาร์ หรือ 9.5% ปิดที่ 102.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤ่ษภาคมที่ผ่านมา
การร่วงลงของราคาน้ำมันทั้ง 2 ประเภท นับเป็นการร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียว ที่รุนแรงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีน ที่นครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการเงินของจีน ประกาศตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่เป็นเวลา 3 วัน พุ่งเป้าติดตามผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดในคาราโอเกะแห่งหนึ่ง
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เมืองหลายแห่งของจีนเฝ้าระวังสถานการณ์เพิ่มขึ้น โดยนับจนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 ก.ค.) จำนวนเมืองที่จำกัดการเดินทางในขณะนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11 เมือง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากจำนวน 5 เมืองเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ตลาดน้ำมัน ยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั้งในสหรัฐ และทั่วโลก โดยในสหรัฐนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงซึ่งให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.1% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.0%
ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 2 รุนแรงกว่าไตรมาส 1 ซึ่งหดตัว 1.6% และแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะทรุดตัวลงแตะระดับ 65 ดอลลาร์ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคาน้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน
