ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ ปิดตลาดวานนี้ (1 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น พุ่งสูงอีกครั้ง จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะการจัดหาที่ตึงตัวในตลาดโลก ช่วยหนุนให้ราคาอยู่ในช่วงขาขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2.67 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 108.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปรับตัวขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 111.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเพิ่มขึ้น 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) บริษัทเนชันแนล ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ของรัฐบาลลิเบีย ประกาศ “เหตุสุดวิสัย” ที่เพิ่มมากขึ้น บริเวณท่าเรือขนถ่ายน้ำมัน เนื่องจากการประท้วง และการปิดล้อม ยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิต และการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศ ทำให้เกิดความกังวลว่า การจัดหาน้ำมันในตลาดโลกจะตึงตัว
อย่างไรก็ตาม ขาขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ถูกสกัดกั้นจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่เทรดเดอร์ พากันปรับตัวรับมติของที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ที่จะเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม สอดคล้องกับมติเดิมในการประชุมเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม หลังเพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคาน้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน