ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ซื้อขายที่ ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ ปิดร่วงลงวานนี้ (17 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เพราะนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังธนาคารกลางหลายแห่งแห่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกรกฏาคม ร่วงลง 8.03 ดอลลาร์ หรือ 6.83% ปิดที่ 109.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปิดร่วงลง 9.2% ในรอบสัปดาห์นี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม ร่วงลง 6.69 ดอลลาร์ หรือ 5.58% ปิดที่ 113.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปิดร่วงลง 7.3% ในรอบสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความต้องการพลังงานที่ลดลง เนื่องจากมีการคาดการณ์มากขึ้นว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ แนวโน้มผลผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียในเดือนกรกฎาคม ยังกลายมาเป็นแรงกดดัน ฉุดให้ราคาน้ำมันร่วงลงมาด้วย
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เปิดเผยว่า ผลผลิตน้ำมันของรัสเซียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า หลังจากการส่งออกน้ำมันในเดือนมิถุนายน สูงกว่าคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดัน จากการที่ “เบเกอร์ ฮิวจ์” ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 4 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 584 แท่น ขณะที่แท่นขุดเจาะน้ำมันของแคนาดา เพิ่มขึ้น 10 แท่น แตะระดับ 104 แท่น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ ปรับคาดการณ์ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง 135 ดอลล์ ปี 65
- นักลงทุนรุ่นใหม่ สนใจลงทุน ทองคำ ราคาพุ่งต่อ จากความขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’
- ‘สหรัฐ’ เผย ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ย พุ่งสูงสุดรอบ 14 ปี