อดีตประธานอย.สหรัฐ “นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ” เตือน จำนวนผู้ติดเชื้อ “โรคฝีดาษลิง” ที่พุ่งสูงขึ้นทั้งในยุโรป และสหรัฐ บ่งชี้ว่า โรคได้แพร่กระจายออกไปเป้นวงกว้างแล้ว แต่ยังเชื่อ ไม่รุนแรงเท่าโควิด
นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ อดีตประธาน คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) หรือ อย.สหรัฐ ให้สัมภาษณ์ รายการ “Squawk Box” ทางสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และยุโรป บ่งชี้ว่า ไวรัสดังกล่าวได้แพร่กระจายไปทั่วชุมชนต่าง ๆ เป็นวงกว้างแล้ว
ฝีดาษลิงระบาดในระดับชุมชนแล้ว แต่ไม่น่าจะแรงเท่าโควิด
อย่างไรก็ดี เขาคาดว่าการแพร่ระบาดอาจจะไม่รุนแรงเท่ากับโรคโควิด-19
“ตอนนี้มีการแพร่ระบาดในระดับชุมชนแล้ว จึงเป็นการยากที่จะเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่า โรคนี้ไม่น่าจะกลายเป็นโรคระบาดร้ายแรง เพราะเป็นไวรัสที่แพร่เชื้อได้ยาก”
เขาบอกด้วยว่า โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่พบได้ยาก ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่นขึ้นตามร่างกายและใบหน้า โดยโรคแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับแผลของผู้ติดเชื้อ และมีระยะฟักตัวนาน 21 วันขึ้นไป นั่นหมายความว่า หลายคนอาจกำลังมีไวรัสฟักตัวอยู่ เนื่องจากผู้ติดเชื้อมักไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือวินิจฉัยผิดพลาด
ทั้งนี้ โรคฝีดาษลิงกลับมาระบาดอีกครั้งในไนจีเรียเมื่อปี 2560 และได้แพร่ระบาดในหลายประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องแจ้งเตือนแพทย์ และประชาชนเกี่ยวกับไวรัสดังกล่าว
นพ.ก็อตต์ลีบ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีผู้ติดเชื้อหลายรายที่ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกัน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการแพร่ระบาดในชุมชนเป็นวงกว้างแล้ว โดยตัวเลขจริงอาจมีมากกว่าที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบอยู่มาก เนื่องจากไวรัสมีระยะฟักตัวนาน และแพทย์ยังไม่ทราบวิธีตรวจพบโรคดังกล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เบลเยียม’ เริ่มประเทศแรก กักตัวผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง 21 วัน
- ‘อนามัยโลก’ จัดประชุมฉุกเฉิน หลังยุโรป เจอผู้ติดเชื้อ ‘ฝีดาษลิง’ ทะลุ 100 ราย
- ยุโรป-อเมริกาเหนือ ผวา! พบผู้ป่วย ‘โรคฝีดาษลิง’ หลายสิบคน หวั่นเกิดการระบาดในท้องถิ่น