ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปิดตลาดร่วงลง ท่ามกลางแรงกดดัน จากปัจจัยลบต่าง ๆ อาทิ แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และการล็อกดาวน์ในจีนเพื่อสกัดโรคโควิด-19 ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนมิถุนายน ร่วงลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 102.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนมิถุนายน ร่วงลง 1.68 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 106.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท และเบรนท์ ร่วงลง 4.1% และ 4.5% ตามลำดับ
นายคาร์สเตน ฟริตช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ช ระบุว่า ตลาดน้ำมันได้ถูกกดดันส่วนหนึ่งจากความวิตกด้านความต้องการ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นอย่างมาก ประกอบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นที่ดิ่งลง เป็นปัจจัยกดดันตลาดน้ำมันด้วย
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงเหลือ 3.6% ซึ่งทำให้ตลาดวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วโลก
ขณะที่ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลกับความต้องการใช้น้ำมันในจีน ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก หลังจากที่เซี่ยงไฮ้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ราคาน้ำมัน’ ดิ่งแรง กว่า 5 ดอลลาร์ หวั่นเศรษฐกิจชะลอ ฉุดความต้องการ
- ‘ราคาน้ำมัน’ ดีดไม่หยุด เฉียด 114 ดอลล์ กังวลจัดหาตึงตัว เหตุ ‘ลิเบีย’ ระงับผลิต ซ้ำเติม ‘คว่ำบาตรรัสเซีย’
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ มอง ‘วิกฤติยูเครน’ ทำ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ผันผวนมากขึ้น ชี้ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งกระทบ ‘ราคาน้ำมัน’