“สหรัฐ” พบ เด็กอายุ 5-11 ปี ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการป่วย จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หากติดเชื้อขึ้นมา สูงกว่าเด็กที่ฉีดวัคซีนแล้วราว 2 เท่า
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า อัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ที่เชื่อมโยงกับโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนนั้น สูงกว่ากลุ่มเด็กที่ฉีดวัคซีนแล้วราว 2 เท่า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การศึกษาดังกล่าวชี้ว่า กลุ่มเด็กผิวดำที่ไม่ใช่ชาวฮิสแปนิก (Non-Hispanic Black) จัดเป็นประชากรเด็กกลุ่มใหญ่ที่สุด ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
นอกจากนั้น ราว 30% ของเด็กติดโควิด ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่มีโรคประจำตัว และ 19% เข้ารักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนัก ส่วนเด็กที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และโรคอ้วน มีแนวโน้มเผชิญอาการป่วยของโรคโควิด-19 รุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ
“การขยายความครอบคลุมของอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 อย่างไม่สมสัดส่วน สามารถป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เชื่อมโยงกับโรคโควิด-19 และอาการป่วยรุนแรงได้” ซีดีซี ระบุ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สหรัฐ’ ยกเลิกคำเตือน ‘ห้ามมาไทย’ หลังหลุดโผ ‘กลุ่มเสี่ยงโควิดสูงสุด’
- สหรัฐไฟเขียว!! ผู้ได้รับวัคซีนครบโดสเดินทางแบบไม่ต้องตรวจโรค – กักตัว
- ซีอีโอ ‘J&J’ ชี้ อาจต้องฉีด ‘วัคซีนโควิด’ ทุกปี เหตุไวรัสกลายพันธุ์ไปเรื่อย