“สภาการเดินทาง และการท่องเที่ยวโลก” ประเมิน อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเดินทางโลก อาจจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิดระบาดใหญ่ ในปี 2566 และจะเติบโตในระดับที่แซงหน้าการขยายตัวของจีดีพีโลก
วันนี้ (21 เม.ย.) สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (ดับเบิลยูทีทีซี) เปิดเผยรายงานฉลบับล่าสุด ระหว่างการประชุมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเดินทางโลก ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมนี้ จะมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยที่ 5.8% ระหว่างปี 2565-2575 เที่ยวกับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของโลก ที่จะเพิ่มขึ้นราว 2.7% ทั้งยังจะสร้างงานใหม่ราว 126 ล้านตำแหน่ง
รายงานคาดว่า การเดินทางและการท่องเที่ยวจะมีมูลค่า 8.35 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 282.63 ล้านล้านบาท ในปีนี้ และ 9.6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 324.94 ล้านล้านบาท ในปี 2566 ซึ่งเป็นระดับก่อนเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 2562
ขณะที่การจ้างงานจะกลับมาอยู่ที่ 300 ล้านคนในปีนี้ และ 324 ล้านคนในปีหน้า ใกล้เคียงกับระดับ 333 ล้านคนในปี 2562
ในปี 2562 การท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 10 ของจีดีพีโลก และตำแหน่งงาน แต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับอุตสาหกรรมนี้ ที่มีมูลค่าราว 9.6 ล้านล้านดอลลาร์ และยังทำให้คนราว 62 ล้านคนต้องตกงาน
ดับเบิลยูทีทีซี ระบุด้วยว่า เฉพาะภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จีดีพีของอุตสาหกรรมนี้น่าจะแตะ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2566 แต่ขณะนี้ฟื้นตัวล่าช้ากว่าอเมริกาเหนือ และยุโรป เนื่องจากหลายประเทศ ยังคงใช้มาตรการควบคุมพรมแดนเข้มงวด
ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มมีผู้โดยสารเครื่องบินกลับมาแล้ว เพราะยกเลิกระเบียบเข้าประเทศและการกักโรค แต่การฟื้นตัวเต็มที่จะยังเป็นไปอย่างช้า ๆ
นางจูเลีย ซิมป์สัน ประธานดับเบิลยูทีทีซี กล่าวว่า อุตสาหกรรมนี้จะฟื้นตัวอย่างทรงพลังอย่างแท้จริง แต่แน่นอนว่าต้องขึ้นกับการเปิดประเทศของจีนอีกครั้ง และขอให้รัฐบาลทุกประเทศเปิดพรมแดน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘มาเลย์-สิงคโปร์’ เปิดช่องเดินทางไม่ต้องกักตัวอีกครั้ง ลดจำนวนผู้โดยสาร 50%
- ‘กัมพูชา’ เลิกแบนนักเดินทางจาก ‘แอฟริกา’ มีผลทันที
- ‘แคนาดา’ ไฟเขียวคนฉีด ‘ซิโนฟาร์ม-ซิโนแวค-โควาซิน’ เดินทางเข้าประเทศ