รัฐบาลลาวให้คำมั่นเพิ่มความหลากหลายของแหล่งพลังงาน ผ่านการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานถ่านหิน เพื่อลดปริมาณการนำเข้าไฟฟ้ากลับคืนจากประเทศเพื่อนบ้านยามหน้าแล้ง และเพิ่มปริมาณการส่งออกพลังงานของประเทศ
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ นายดาววง พอนแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ กล่าวระหว่างการประชุมสภาแห่งชาติลาว (NA) ว่า ลาวมีศักยภาพมหาศาลในการผลิตพลังงานจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แสงอาทิตย์ และลม สำหรับจัดจำหน่ายให้ไทย เวียดนาม และกัมพูชา
ปัจจุบัน ลาวมีแหล่งพลังงาน 82 แห่ง พร้อมกำลังการผลิตติดตั้งรวมกว่า 10,000 เมกะวัตต์ เมื่อนับถึงสิ้นปี 2563 ซึ่ง 80.4% ของพลังงานทั้งหมดมาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และ 18.6% มาจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน
นายดาววง กล่าวว่า 91.49% ของไฟฟ้าที่ใช้ในลาวมาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ พร้อมเสริมว่า แหล่งพลังงานที่หลากหลาย จะช่วยรับประกันความมั่นคงด้านพลังงานของลาว
ลาววางแผนผลิตไฟฟ้า 1,807 เมกะวัตต์ ระหว่างปี 2564-2568 ซึ่ง 57% ในจำนวนนี้ เป็นไฟฟ้าพลังน้ำ 19% เป็นไฟฟ้าจากถ่านหิน และ 24% เป็นไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งต้องการผลิตไฟฟ้าอีก 5,559 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 โดย 77.59% เป็นไฟฟ้าพลังน้ำ ส่วนที่เหลือจะเป็นไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และถ่านหิน
มีการคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของลาวจะอยู่ระหว่าง 10,000-15,000 เมกะวัตต์ ขณะศักยภาพการผลิตพลังงานลมอยู่ที่ราว 100,000 เมกะวัตต์
“เหตุผลหลักที่เราต้องการยกระดับการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินคือเพื่อลดการนำเข้าไฟฟ้ากลับคืน และแก้ไขปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าในฤดูแล้ง” นายดาววงระบุ
ก่อนหน้านี้ นายดาววง ยังได้เปิดเผยว่า ลาวมีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน 2 แห่งในแขวงเซกอง ซึ่งจะเปิดดำเนินการ และเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าสู่กัมพูชาในปี 2568
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ลาวมีายได้จากการส่งออกไฟฟ้าอยู่ที่ 2,010 ล้านดอลลาร์ หรือราว 66,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ลาว’ ส่งออก ‘ไฟฟ้า’ 9 เดือนแรก โกยรายได้กว่า 2 พันล้านดอลล์
- กิจการร่วมค้า ‘จีน-ลาว’ เซ็นสัมปทานบริการ ‘โครงข่ายไฟฟ้า’ ระดับชาติ
- ลาวเล็งตรวจ ‘เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ’ ทุก 5 ปี เดินหน้าสร้างให้ครบ 100 แห่ง