ผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่มจี20 บรรลุข้อตกลงว่าด้วยการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก โดยเฉลี่ยไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส จากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม พร้อมไปกับการเพิ่มความพยายามลดระดับอุณหภูมิดังกล่าวไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
VOA รายงานว่า ความตกลงดังกล่าวคล้ายกับที่ประเทศต่าง ๆ ให้สัญญาไว้ในสนธิสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกเมื่อปี 2558 ทำให้บรรดานักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมยังคงไม่มั่นใจว่า บรรดาผู้นำจะสามารถสร้างความคืบหน้า ในการเจรจาเรื่องสิ่งแวดล้อม ในการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ ได้หรือไม่
การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ หรือ จี20 (G20) ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถตกลงเรื่องมาตรการที่จะนำมาใช้ในการเดินหน้าตามเป้าหมายเรื่องการจำกัดอุณหภูมิดังกล่าว มีเพียงความตกลงเรื่องการยกเลิกการให้เงินอุดหนุนของประเทศพัฒนาแล้วต่าง ๆ สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังไม่สามารถกำหนดเป้าหมายว่ารัฐบาลแต่ละประเทศจะยกเลิกการอุดหนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศตนเองได้เมื่อไร ในขณะที่จีนและอินเดียต่อต้านมาตรการยกเลิกการอุดหนุนดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีอิตาลี มาริโอ ดรากี ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมจี20 ครั้งนี้ กล่าวกระตุ้นให้บรรดาผู้นำที่ร่วมประชุมพยายามกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว พร้อมทั้งใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น
นายดรากี กล่าวว่า การตัดสินใจในการประชุมจี20 จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสำเร็จของการประชุม COP26 และความสามารถของประเทศต่าง ๆ ในการจัดการกับวิกฤติการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกได้
ทั้งนี้ ประเทศกลุ่มจี20 ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนรวมกันราว 75% ของปริมาณทั้งหมดบนโลก ยังตกลงกันที่จะเพิ่มการสนับสนุนในรูปของเงินทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อช่วยประเทศยากจน รับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งเป็นความตกลงภายใต้สนธิสัญญากรุงปารีสเมื่อปี 2558 เช่นกัน
ทางด้านบรรดานักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมต่างแสดงความผิดหวังต่อการประชุมครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคือ เกรียตา ทุนแบร์ นักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน ซึ่งกล่าวตำหนิบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมประชุมว่า จัดทำแถลงการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศขึ้นมา เพราะต้องการได้รับชื่อเสียงหรือทำให้พวกเขาดูดีเท่านั้น
ผู้นำ จี20 เดินทางร่วมประชุม COP26
การประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (1 พ.ย.) โดยมีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ประมาณ 200 ประเทศเข้าร่วมการประชุม พร้อมทั้งประกาศนโยบาย ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงภายในปี 2573 รวมทั้งแนวทางในการแก้ปัญหาโลกใบนี้
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ถือเป็นวาระแห่งความเป็นจริงของโลก พร้อมเตือนด้วยว่า หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ประชากรรุ่นต่อไป จะได้รับผลกระทบตามมา
ภายหลังจากที่บรรดาผู้นำประเทศชั้นนำระดับโลกซึ่งเข้าร่วมการประชุมจี20 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลีแล้ว ผู้นำของกลุ่มประเทศดังกล่าว จะเดินทางมายังเมืองกลาสโกว์ เพื่อเข้าร่วมการประชุม COP26
ในขณะที่อุณหภูมิของโลกปรับตัวสูงขึ้นจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ บรรดานักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อหลีกเลี่ยงความหายนะด้านภูมิอากาศ
สหประชาชาติระบุว่า เป้าหมาย คือ การทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเพียง 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี 2643 แต่ปัจจุบันอุณหภูมิโลกกลับมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น 2.7 องศาสเซลเซียสแล้ว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะก่อให้เกิดหายนะด้านสภาพภูมิอากาศตามมา แต่ก็ยังคงมีความหวังว่า หลาย ๆ ประเทศจะมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อให้การปล่อยก๊าซโลกร้อนภายในปี 2573 ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้
ทั้งนี้ สภาพภูมิอากาศรุนแรงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มีความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อน น้ำท่วม เหตุไฟป่า ที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สีจิ้นผิง’ เรียกร้องกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วลดปล่อยมลพิษ
- ‘ยูเอ็น’ เตือน ‘โลกร้อน’ ขึ้น 2.7 องศาเซลเซียส ต้องลดปล่อย ‘ก๊าซเรือนกระจก’ มากกว่านี้
- BLACKPINK ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตประชาสัมพันธ์ COP 26 ในการประชุมสหประชาชาติ
