ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 100 ยูโรต่อเดือนในปีหน้า พร้อมยกเลิกแผนจัดเก็บภาษีเกือบทั้งหมด ชี้เหตุประท้วงช่วงสุดสัปดาห์ที่ต่อเนื่องมา 4 อาทิตย์ติดนั้น เป็นผลมาจากความ “เจ็บป่วย” ที่สะสมมา 40 ปี
ในความพยายามที่จะยุติสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม “เสื้อกั๊กเหลือง” ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นั้น นายมาครง ผู้นำฝรั่งเศสแถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่า ความโกรธแค้นของผู้ประท้วงนั้นเป็นเรื่องที่ฝังลึก และการแสดงออกที่เกิดขึ้นมีหลายวิธีที่ถูกกฎหมาย
เขายอมรับด้วยว่า มีคนจำนวนมากที่ไม่มีความสุขกับคุณภาพชีวิตที่เป็นอยู่ และรู้สึกว่า ไม่มีใครรับฟังพวกเขา
มาครง ชี้ว่า ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา มี “ความเจ็บป่วย” เกิดขึ้นตามหมู่บ้าน และสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับการบริการสาธารณะลดน้อยลง สถานที่ที่คุณภาพชีวิตย่ำแย่ลง ทั้งยังมีผู้คนจำนวนมากที่โดนหลงลืมไป
“ผมอาจทำให้พวกคุณรู้สึกว่า ผมมีเรื่องอื่นที่ต้องกังวล และให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นๆ มากกว่า ผมรู้ว่าคำพูดของผมทำให้บางคนรู้สึกเจ็บปวด”
เขาย้ำว่า เหตุประท้วงที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ในเมืองเล็กๆ หรือตามชนบทของฝรั่งเศสนั้น เป็นผลมาจากปัญหาที่สะสมมายาวนาน
“ความไม่พอใจของพวกเขา ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่เมื่อวานนี้ เพียงแต่เราคุ้นเคยกับมันมานาน ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นมาร่วม 40 ปี เริ่มเผยโฉมออกมาให้เห็นแล้ว”
นอกจากจะประกาศแผนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 100 ยูโร หรือประมาณ 3,700 บาทต่อเดือนแล้ว ผู้นำฝรั่งเศสยังยกเลิกแผนการขึ้นภาษีเกือบทั้งหมด รวมถึง ยกเลิกแผนจัดเก็บภาษีบำนาญของผู้มีรายได้น้อย ทั้งยังจะขอให้นายจ้างจ่ายโบนัสปลายปีให้กับพนักงาน โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีในส่วนนี้
