World News

จับตา! ‘ราคาน้ำมัน’ ส่อขาขึ้นยาว แนวโน้มราคาพุ่งถึง 100 ดอลล์

นักวิเคราะห์มองทิศทางราคาน้ำมันโลก จ่ออยู่ในขาขึ้นอีกนาน จับตาราคา อาจทะยานไปถึง 100 ดอลลาร์

จากกรณีที่ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือ โอเปคพลัส มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ยึดตามข้อตกลงเดิม เพิ่มกำลังการผลิตเพียงวันละ 400,000 บาร์เรลนั้น ทำให้บรรดานักวิเคราะห์ด้านพลังงาน ต่างเชื่อว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อาจทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมุ่งตรงไปอยู่ที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นับตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา ราคาน้ำมันทั้ง เวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ซึ่งซื้อขายในตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ และ เบรนท์ ซื้อขายในตลาดลอนดอน อังกฤษ พุ่งขึ้นมาแล้วถึง 60%  โดย ทามาส วาร์กา นักวิเคราะห์อาวุโส จากพีวีเอ็ม ออยล์ แอสโซซิเอทส์ ชี้ว่า ตลาดน้ำมันในขณะนี้ เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น แต่คำถามอยู่ตรงที่ว่า การมองโลกในแง่ดีเช่นนี้ สมเหตุสมผลหรือไม่

ราคาน้ำมัน

โอเปคพลัส เห็นพ้องกันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตอีกเดือนละ 400,000 บาร์เรล อย่างน้อยจนกว่าจะถึงวันที่ 22 เมษายน 2565 เพื่อทำให้กำลังผลิตที่ลดลงในปัจจุบันวันละ 5.8 ล้านบาร์เรล ค่อย ๆ กลับคืนมาอย่างช้า ๆ

ทั้งนี้ ความต้องการน้ำมันทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นมาเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ หลังจากที่หดหายไปอย่างมาก เพราะการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่การจัดหาโลก กลับต้องเจอกับอุปสรรค อย่าง พายุเฮอริเคน ที่พัดถล่มแหล่งขุดเจาะ และการลงทุนที่ลดน้อยลง

แนวโน้ม ราคาน้ำมัน ขยับขึ้นไปถึงสิ้นปี

วาร์กา แสดงความเห็นด้วยว่า แม้ในขณะนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และหลายคนอาจรู้สึกเหมือนกับว่า ได้ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ราคาน้ำมันอาจจะขยับขึ้นไปอีก เมื่อซีกโลกเหนือเข้าสู่ฤดูหนาว ที่ทำให้เกิดความต้องการน้ำมันเพิ่ม และจุดชนวนให้เกิดแรงซื้อรอบใหม่

ขณะที่ คีแรน แคลนซี นักเศรษฐศาสตร์โภคภัณฑ์ จากแคปิตัล อิโคโนมิคส์ ชี้ว่า มีแรงกดดันมากขึ้น ที่จะให้โอเปคพลัส เพิ่มการจัดหาน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดเร็วขึ้น

“เราคิดว่า การที่โอเปคพลัสปฏิเสธที่จะเพิ่มการจัดหาให้เร็วขึ้นนั้น หมายความว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปริมาณน้ำมันยังจะขาดแคลนอยู่ ซึ่งบ่งชี้ว่า ราคาน้ำมันจะยังทะยานสูงขึ้น อย่างน้อยก็ตลอดช่วงเวลาที่เหลืออยู่ทั้งปีนี้”

แคลนซี บอกด้วยว่า คำถามที่อาจสำคัญกว่านั้นคือ โอเปคพลัสจะยังสามารถทำตามเป้าหมายที่ลดน้อยลงมานี้ได้หรือไม่

ราคาน้ำมัน

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โอเปคสามารถผลิตน้ำมันได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของแผนการเพิ่มการผลิต ส่วนใหญ่เป็เนเพราะอุปสรรคในการผลิต ที่แองโกลา และไนจีเรีย
ถ้าหากการผลิตยังไม่ได้ตามเป้าที่กลุ่มตั้งไว้ต่อไป ในปี 2565 ราคาน้ำมันอาจจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไป

ก่อนหน้านี้ บรรดานักวิเคราะห์ จาก แบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบอล รีเสิร์ช ประเมินว่า ราคาน้ำมันกำลังมุ่งหน้าไปแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากฤดูหนาวในปีนี้ มีอากาศที่เย็นขึ้นกว่าเดิม สถานการณ์ที่จะทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น และยิ่งทำให้ปัญหาการจัดหาที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ ขยายวงกว้างขึ้นกว่าเดิม

ขณะเดียวกัน กลุ่มนักวิเคราะห์ จาก โกลด์แมน แซคส์ ก็พึ่งจะปรับตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ในช่วงสิ้นปี 2564 ว่าจะอยู่ที่ระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยให้เหตุผลถึงความต้องการโลกที่ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้

“ดูเหมือนว่า สมาชิกโอเปคจะไม่ได้มองว่า ราคาน้ำมันที่กำลังขยับขึ้นในขณะนี้ เป็นปัญหาแต่อย่างใด” นักวิเคราะห์พลังงาน จากยูเรเซีย กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงเขียนไว้ในรายงานวิจัย

“อย่างไรก็ดี ซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของกลุ่ม ได้เริ่มลดปริมาณราคาขายอย่างเป็นทางการ ให้กับกลุ่มลูกค้าหลักแล้ว การเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มว่า จะช่วยคลายกังวลในเรื่องที่ว่า สัญญาล่วงหน้า น้ำมันดิบเบรนท์ จะมีราคาที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือสูงกว่านั้น

ยูเรเซีย กรุ๊ป มองว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อาจเคลื่อนไหวที่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า

shutterstock 552038428

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo