ฝรั่งเศส ประณามออสเตรเลียและสหรัฐ กรณี “ละเมิดความไว้วางใจและดูหมิ่นเหยียดหยามครั้งใหญ่” ในข้อพิพาทเกี่ยวกับเรือดำน้ำ หลังจากมีมติเรียกตัวเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำออสเตรเลียและสหรัฐ กลับประเทศ
เมื่อวันเสาร์ (18 ก.ย.) ฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกระทรวงยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ฟรานซ์ 2 ว่าการเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐ และออสเตรเลียกลับประเทศครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสเป็นการแสดงออก “เชิงสัญลักษณ์” ซึ่งสะท้อน “วิกฤตร้ายแรงระหว่างกัน”
“มีการโกหกการตีสองหน้า ตลอดจนการละเมิดความไว้วางใจและการเหยียดหยามครั้งใหญ่” เลอ ดริยองกล่าว พร้อมเสริมว่าผลลัพธ์ที่ตามมาสามารถส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ภายในองค์กรนาโต (NATO) ได้
“นาโตริเริ่มการหารือแนวคิดขององค์กรฯ” เลอ ดริยองกล่าว “การประชุมสุดยอดนาโตครั้งต่อไปในมาดริดจะมุ่งเป้าไปที่แนวคิดเชิงกลยุทธ์รูปแบบใหม่ และแน่นอนว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับคำนิยามนี้”
เลอ ดริยองระบุว่าฝรั่งเศสจะทำให้การพัฒนากลยุทธ์ด้านความมั่นคงของสหภาพยุโรป (EU) เป็นพันธกิจสำคัญลำดับแรกเมื่อรับตำแหน่งประธานอียูในช่วงต้นปี 2022
ทั้งนี้ ออสเตรเลียจะสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ภายใต้การเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงใหม่ระหว่างออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ หรือที่เรียกว่าออคัส (AUKUS) ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันพุธ (15 ก.ย.)
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.ย.) ออสเตรเลียประกาศแผนการยกเลิกข้อตกลงที่ลงนามกับฝรั่งเศสในปี 2016 เพื่อซื้อเรือดำน้ำพลังงานดีเซล-ไฟฟ้าแบบทั่วไป 12 ลำ โดยเลอ ดริยองออกมาตอบโต้ว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็น “การแทงข้างหลัง”
อนึ่ง ฝรั่งเศสเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐ และออสเตรเลียกลับประเทศเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) โดยระบุว่าเป็นการดำเนินการที่มีความชอบธรรม
ที่มา:สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ทำเนียบขาว’ ยัน สหรัฐพร้อมรับมือ ‘วิกฤติเอเวอร์แกรนด์’
- ‘สหรัฐ’ เดินหน้าปรับเกณฑ์ใหม่ ต่างชาติเข้าประเทศ สกัดโควิด
- มาแรง! เอเชียเร่งเครื่องฉีดวัคซีนโควิด แซงหน้าตะวันตกแล้ว