‘ทำเนียบขาว’ ยัน สหรัฐพร้อมรับมือ ‘วิกฤติเอเวอร์แกรนด์’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 21 กันยายน 2564

ทำเนียบขาว ยืนยัน สหรัฐกำลังจับตาวิกฤตการณ์ทางการเงิน ยักษ์อสังหาริมทรัพย์จีน “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” อย่างใกล้ชิด และพร้อมรับมือผลกระทบดังกล่าว หากมีความจำเป็น

“ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับจีน ขณะที่เราจับตาตลาดโลกอย่างใกล้ชิด ผ่านทางกระทรวงการคลังสหรัฐ โดยมีการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเราพร้อมรับมือ หากมีความจำเป็น” นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

นายแลร์รี เบรนนาร์ด นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์จีนรายนี้ จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เอเวอร์แกรนด์ ยอมรับขาดสภาพคล่อง

ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์จีนรายนี้ ออกมายอมรับว่า บริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะที่บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 กันยายนของหุ้นกู้ ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมีนาคม 2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 กันยายน ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมีนาคม 2567

หากไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเมื่อถึงวันกำหนดชำระดังกล่าว บริษัทจะมีเวลาอีก 30 วันในการชำระดอกเบี้ย มิฉะนั้นจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น บริษัทจะต้องดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ และคาดว่านักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์ จะได้รับส่วนแบ่งการชำระคืนในสัดส่วนต่ำ

ข้อมูลที่มีการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ระบุว่า นับถึงสิ้นปี 2563 บริษัทมีตราสารเชิงพาณิชย์มูลค่ารวม 205,700 ล้านหยวน หรือราว 1 ล้านล้านบาท

มีการประเมินว่า ขณะนี้ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์จีน มีหนี้สินมากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น