World News

จีนอัดเงินเกือบ 5 แสนล้าน หวังเสริมสภาพคล่อง รับมือวิกฤติ ‘เอเวอร์แกรนด์’

จีนอัดฉีดเงินสดระยะสั้นเกือบ 5 แสนล้านบาท เข้าสู่ระบบการเงินของประเทศ ในความพยายามที่จะบรรเทาภาวะตึงเครียดในตลาด จากความกังวลถึงวิกฤติ “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่สุดอันดับ 2 ของประเทศ ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก และมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงินสดจำนวน 90,000 ล้านหยวน หรือราว 460,000 ล้านบาท เข้าสู่ระบบการเงินท้องถิ่น ผ่านทางการทำ reverse repos ประเภทอายุ 7 วันและ 14 วัน เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งถือเป็นการอัดฉีดครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา

ครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกในเดือนนี้  ที่เจ้าหน้าที่จีนอัดฉีดเงินมากกว่า 10,000 ล้านหยวน ในวันเดียว เพื่อสร้างสภาพคล่องระยะสั้น ให้กับระบบธนาคาร โดยการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางจีน ยังมีเป้าหมายที่จะรองรับความต้องการเงินสด ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ (Mid-Autumn Festival) ในสัปดาห์หน้าด้วย

shutterstock 313388084

ปฏิบัติการข้างต้นของแบงก์ชาติจีน เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ “วิกฤติเอเวอร์แกรนด์” จุดชนวนให้เกิดความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น และตลาดสินเชื่อ

ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์ กำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะเดียวกันมีการประเมินว่า เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อรองรับการขยายตัวขอ งภาคอสังหาริมทรัพย์จีน

ข้อมูลที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ระบุว่า  นับถึงสิ้นปี 2563 เอเวอร์แกรนด์ มีตราสารหนี้เชิงพาณิชย์มูลค่ารวม 205,700 ล้านหยวน หรือมากกว่า 1 ล้านล้านบาท

นักวิเคราะห์จากธนาคารโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) กล่าวว่า การหลีกเลี่ยงปัญหาสภาพคล่องตึงตัวในระบบ ถือเป็นภารกิจสำคัญของธนาคารกลางจีน และการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบดังกล่าว ก็มีเป้าหมายชัดเจนว่า เป็นการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo