World News

‘เอเวอร์แกรนด์’ ยักษ์อสังหาเบอร์ 2 จีน แจ้งขาดสภาพคล่อง แบกหนี้ 10 ล้านล้าน!

“เอเวอร์แกรนด์” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์เบอร์ 2 ของจีน ยอมรับ เจอปัญหาสภาพคล่อง และอาจผิดนัดชำระหนี้ พร้อมแจ้งระงับการซื้อขายหุ้นกู้ภายในประเทศ ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อ อาจมีภาระหนี้าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (China Evergrande Group) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า บริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

นอกจากนี้ เอเวอร์แกรนด์ ยังแจ้งระงับการซื้อขายหุ้นกู้ภายในประเทศของทางบริษัท ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า อาจปูทางไปสู่การปรับโครงสร้างหนี้ หรืออาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้

shutterstock 1785708689

ข้อมูลที่มีการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ระบุว่า เอเวอร์แกรนด์มีตราสารหนี้เชิงพาณิชย์มูลค่ารวม 2.057 แสนล้านหยวน หรือราว 1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2563

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 2 แห่งได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอเวอร์แกรนด์ขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ก.ย.) ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ สั่งระงับการซื้อขายหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์ ที่มีกำหนดครบอายุในเดือนพฤษภาคม 2566 หลังจากที่ทรุดตัวลงมากกว่า 30%

ทางด้านเอเวอร์แกรนด์ แถลงเมื่อวันอังคาร (14 ก.ย.) ว่า บริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของทางบริษัท พร้อมเตือนว่า ขณะนี้ยังไม่มีการรับประกันใด ๆ ว่าบริษัทจะสามารถชำระหนี้ได้ตามภาระผูกพัน

ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ลูกค้าของบริษัทแห่กันมารวมตัวหน้าสำนักงานของบริษัท ทั้งในเมืองเสิ่นเจิ้น และอีกหลายเมืองทั่วประเทศจีน เพื่อขอเงินดาวน์คืน จากการที่บริษัทระงับการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก เนื่องจากขาดแคลนเงินทุน

มีการประเมินว่า ขณะนี้เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น

สถานะทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์เริ่มสั่นคลอน หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขาย ท่ามกลางความไม่มั่นใจต่อสถานะทางการเงินของบริษัท

shutterstock 2029697834

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่าในท้ายที่สุด รัฐบาลจีนจะเข้าช่วยเหลือเอเวอร์แกรนด์ ตามคำกล่าวที่ว่า “too big to fail” หรือ ใหญ่เกินกว่าที่จะล้ม โดยจะไม่ปล่อยให้เกิดการล้มละลาย เนื่องจากการล้มละลายของบริษัท จะสร้างความเสี่ยงครั้งใหญ่ต่อระบบการเงินของจีน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ

ขณะนี้ รัฐบาลของมณฑลกวางตุ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำปรึกษาในการปรับโครงสร้างหนี้ของเอเวอร์แกรนด์แล้ว

ทั้งนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของจีน โดยมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ซึ่งการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์จะส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสร้างความเสี่ยงต่อระบบธนาคารของจีน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo