“จีน” เปิดแผนแม่บทระยะเวลา 5 ปี เพื่อยกระดับการควบคุมเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ให้เข้มงวดมากขึ้น ผ่านการจัดวางกรอบการดำเนินงาน เพื่อกวาดล้างอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ เป็นวงกว้าง
รัฐบาลจีนระบุว่า จะนำกฎเกณฑ์ใหม่มาใช้ในหลายภาคส่วน รวมถึง ความมั่นคงแห่งชาติ เทคโนโลยี และกิจการผูกขาดในประเทศ ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยแผนการนี้ถูกนำมาบังคับใช้เร็วขึ้น หลังจากที่รัฐบาลปักกิ่ง เริ่มพุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมการศึกษา และเทคโนโลยี
สภาแห่งรัฐและคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เผยแพร่แผนการ 10 ข้อ ร่วมกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีการอ้างอิงถึงประธานเหมา เจ๋อตุง ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่จีน กำลังเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์
แผนการนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดในช่วงปลายปี 2568 ระบุว่า จะเพิ่มความเข้มงวดของกฎหมายต่าง ๆ ใน “ภาคส่วนที่มีความสำคัญ” อย่าง วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมเทคโนโลยี วัฒนธรรม และการศึกษา นอกเหนือไปจากการรับมือกับกิจการผูกขาด และ “กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติ”
นอกจากนี้ ก็จะมีการทบทวนกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัลของจีน รวมถึง “การเงินทางอินเทอร์เน็ต ปัญญาประดิษฐ์ ข้อมูลขนาดใหญ่ การประมวลผลบนระบบคลาวด์ และอื่น ๆ”
แม้นโยบายส่วนใหญ่ จะสอดคล้องกับภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า การมี “อาหารและยา” เป็นอุตสาหกรรมใหม่ ที่เพิ่มเข้ามาในแผนแม่บทกำหนด 5 ปีฉบับนี้ จะทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลมากขึ้น จนกว่าจะมีการประกาศกฎข้อบังคับใหม่อย่างชัดเจน
การเคลื่อนไหวข้างต้น ทำให้เกิดความกังวลขึ้นอีกครั้งว่า การปราบปรามบริษัทด้านการศึกษาของเอกชน และบริษัทเทคโนโลยี จะดำเนินต่อไป และขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้านี้ สถานการณ์ที่ทำให้หุ้นของบริษัทจีนหลายแห่ง ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐ ฮ่องกง หรือแม้แต่ตลาดแผ่นดินใหญ่เอง ร่วงบลงอย่างหนักในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้น ของนักลงทุน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้ดำเนินการสอบสวนบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่สุดของประเทศบางแห่งแล้ว และได้ดำเนินการกับธุรกิจอีกหลายอย่าง เพื่อต่อต้านการผูกขาด
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา “อาลีบาบา” บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยี ยอมจ่ายค่าปรับจำนวน 2,800 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 93,000 ล้านบาท หลังทางการจีนดำเนินการสอบสวน และพบว่า บริษัทได้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบมานานหลายปีจากการครอบงำตลาด
จากนั้น ในเดือนกรกฎาคม “เทนเซ็นต์” ได้รับแจ้งจากทางการจีน ให้ยุติข้อตกลง ที่จะขอใช้เพลงแต่เพียงผู้เดียว กับค่ายเพลงทั่วโลก และในเดือนเดียวกันนี้ รัฐบาลก็ได้สั่งแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่สุดของจีนหลายแห่ง รวมถึง ไคว่โส่ว (Kuaishou), คิวคิว (QQ) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความของเทนเซ็นต์, เถาเป่า (Taobao) ของอาลีบาบา และวีแชต ให้ลบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องที่ไม่เหมาะสมกับเด็กทิ้งไป
สัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนระบุว่า ได้เพิ่มการตรวจสอบ หลังจากมีครูจำนวนมากเสนอบริการกวดวิชาหลังเลิกเรียนเพิ่มมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการศึกษาของเทศบาลกรุงปักกิ่ง แถลงว่า การตรวจสอบที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้มีการลงโทษบุคคล 1 คน และสถาบัน 6 แห่ง ฐานเสนอการกวดวิชาหลังเลิกเรียน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่มา : ฺBBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอ เจอต้นทุนผลิตพุ่ง-โควิดเดลตาเริ่มลาม
- IMF คาด ‘เศรษฐกิจจีน 2564’ เติบโต 8.1% หวังเห็นเอกชนขยายการลงทุน
- ‘เครดิต สวิส’ คาดจีนปี 64 โตแกร่งกว่า 7%
