ผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ของสหรัฐ “เป๊ปซี่โค อิงค์” เปิดข้อตกลงมูลค่า 3,300 ล้านดอลลาร์ ขายกิจการ “ทรอปิคานา” และแบรนด์น้ำผลไม้อื่น ๆ ให้กับกลุ่มทุนฝรั่งเศส “พีเอไอ พาร์ทเนอร์ส” การเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนในผลิตภัณฑ์ของบริษัท และตีตัวออกห่างจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
เป๊ปซี่ เข้าซื้อกิจการ “ทรอปิคานา” ผู้ผลิตน้ำส้มชั้นนำของสหรัฐ เมื่อปี 2541 ในข้อตกลงมูลค่าเกือบ 3,300 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่ในอีกเกือบ 10 ปีต่อมา จะเข้าซื้อกิจการ “เนคเค็ด จูซ” ผู้ผลิตน้ำผลไม้สหรัฐ ในวงเงิน 150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในการขายกิจการแบรนด์น้ำผลไม้ครั้งนี้ บริษัทยังจะถือหุ้นอยู่ในบริษัทร่วมทุนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ และถือสิทธิจัดจำหน่ายน้ำผลไม้แบรนด์ต่าง ๆ ในสหรัฐ
เป๊ปซี่ ขายธุรกิจ เพิ่มทุนสำรองลงทุนด้านใหม่
นายราโมน ลากัวร์ตา ซีอีโอเป๊ปซี่ กล่าวว่า การขายกิจการดังกล่าว ยังจะทำให้เป๊ปซี่ มีเงินทุนสำหรับการพัฒนา และขยายธุรกิจด้านสุขภาพ ที่มุ่งเน้นไปในเรื่องขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม 0 แคลลอรี
การเคลื่อนไหวข้างต้นของเป๊ปซี่ ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับคู่แข่ง อย่าง “โคคา โคลา โค” ที่เดินหน้ากระชับธุรกิจให้คล่องตัวมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดยยกเลิกการผลิต โซดา “แท็บ” และแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังโคคา โคลา ในตลาดสหรัฐ อกเหนือจากการขายกิจการ แบรนด์น้ำมะพร้าว “ซิโค”
ทั้งนี้ ธุรกิจน้ำผลไม้ ทำรายได้สุทธิให้กับเป๊ปซี่ราว 3,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2563 แต่ยังมีส่วนต่างผลกำไรจากการดำเนินงาน ที่ต่ำกว่าของบริษัท
การเข้าซื้อกิจการนี้ ยังเป็นเพียง 1 ในการลงทุนด้านอาหาร และเครื่องดื่มจำนวนมาก ที่พีเอไอ เข้าลงทุนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 2562 เนสท์เล่ ได้ขายกิจการธุรกิจไอศกรีมในสหรัฐ รวมถึง แบรนด์ต่าง ๆ เช่น ฮาเกน ดาซ ให้กับบริษัทร่วมทุน ที่มีพีเอไอหนุนหลังอยู่ มูลค่าข้อตกลงราว 4,000 ล้านดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เป๊ปซี่โค หยุดผลิตโรงงานจีน หลังพนักงานติดเชื้อ 8 ราย
- ‘เป๊ปซี่โค’ ลุยซื้อธุรกิจสแน็คจีน แก้เกมน้ำอัดลม ‘ขาลง’
- เซ่นภาษีความหวาน น้ำอัดลมแห่ขึ้นราคาถ้วนหน้า ‘เป๊ปซี่’ ร่อนสารวอนลูกค้าเข้าใจ