หนานหนิง: “ฉันจำได้ว่าตอนที่มาหนานหนิงแรกๆ ยังไม่มีรถไฟใต้ดิน แต่ตอนนี้รถไฟใต้ดินสาย 5 กำลังจะเปิดแล้วหลังผ่านไปเพียงไม่กี่ปี” เมธินี หญิงไทยเจ้าของร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน เผย
เมื่อปี 2010 เมธินี นันตาดี หรือ เฉินเหม่ยนี จากจังหวัดลำปาง เดินทางมายังกว่างซีในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน ก่อนจะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีและโท ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา เธอได้เปลี่ยนจากผู้ที่ได้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนด้านต่างๆ ระหว่างจีน-อาเซียนมาเป็นผู้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนดังกล่าว
เมธินี ตัดสินใจอยู่ที่จีนหลังสำเร็จการศึกษา เนื่องจากสนใจในความก้าวหน้าและวัฒนธรรมจีน เธอเคยทำงานเป็นทั้ง ล่าม เลขานุการ และตัวแทนจัดซื้อ แม้ว่างานจะเป็นความสุขของเธอ แต่เธอมักคิดถึงอาหารบ้านเกิดอยู่บ่อยครั้ง
“ตอนมาเรียนครั้งแรก ที่นี่มีร้านอาหารไทยแค่ไม่กี่ร้าน หาอาหารไทยแท้ๆ กินได้ยาก แม้กระทั่งการหาซื้อวัตถุดิบมาทำเองก็ยากเหมือนกัน” เมธินีกล่าว ดังนั้นทุกครั้งหลังปิดเทอม เธอจึงขนอาหารจากไทยกลับมาที่นี่เสมอ
หนานหนิง กลายเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจและการค้า สืบเนื่องจากความก้าวหน้าของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ทำให้เพื่อนพ้องจากอาเซียนหลายคนเดินทางมาศึกษาและทำธุรกิจที่นี่ เมธินีจึงตัดสินใจเริ่มเปิดธุรกิจร้านอาหารร่วมกับเพื่อนๆ
เดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เริ่มระบาดรุนแรงขึ้น เป็นช่วงที่ร้านอาหารของเธอเริ่มเปิดกิจการ “โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อธุรกิจร้านอาหาร แต่ฉันว่าทุกวิกฤติมีโอกาส และร้านของเรายังคงมีตลาดที่ค่อนข้างกว้าง”
ร้านอาหารของเมธินี ตกแต่งแบบไทยสไตล์ โดยใช้สีทองและสีดำเป็นหลัก บวกกับภาชนะที่เธอใช้ล้วนให้ความรู้สึกราวกับอยู่เมืองไทย ขณะที่เบียร์และชานมจากไทยก็เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า
“เรามีลูกค้าประจำเยอะมาก เพราะทำอาหารตำรับไทยแท้ เช่น ต้มยำกุ้ง เล้งแซ่บภูเขาไฟ ไก่ย่างตะไคร้ ซึ่งล้วนเป็นเมนูเด็ดของเรา” เมธินี ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว
นอกจากอาหารไทยแล้ว เธอยังเล็งเห็นโอกาสธุรกิจใหม่ๆ ทันทีที่เธอเห็นว่า ลูกค้าหลายคนมักให้ความสนใจกับชุดไทยที่เธอสวมใส่ เธอจึงตัดสินใจ เปิดธุรกิจชุดแต่งกาย บนชั้นสองของร้าน เพื่อให้ลูกค้าสามารถมานั่งจิบชายามบ่าย พูดคุย พร้อมกับถ่ายรูปในชุดไทย
เมธินี นำเข้าชุดไทยโบราณราว 300 ชุด และเครื่องประดับอื่นๆ จากไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่แตกต่างกันออกไป ท่ามกลางธุรกิจชุดแต่งกาย ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับธุรกิจร้านอาหารที่กำลังไปได้สวยด้วยรายได้สูงสุดมากกว่า 300,000 หยวน (ราว 1.5 ล้านบาท) ต่อเดือน โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งผู้สูงอายุ วัยกลางคน และวัยรุ่น
หนานหนิงเป็นสถานที่จัดงานถาวรของงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน หลายประเทศอาเซียนมีสถานกงสุลตั้งอยู่ที่นี่ ซึ่งพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในทุกๆ วัน
“ผู้ประกอบการอาเซียนหลายรายมาลงทุนที่หนานหนิง เนื่องจากมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ฉันหวังว่าร้านอาหารของเรา จะมีบทบาทมากขึ้นในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมของทั้งสองฝ่าย” เมธินี กล่าว
ที่มา:สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จีน-ญี่ปุ่น มุ่งสู่พลังงานสะอาด เร่งผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลเพิ่ม
- ประมวลภาพ! ‘เฉิงตู เทียนฝู่’ สนามบินใหญ่สุดของจีน เปิดให้บริการแล้ว
- ‘sinovac’ ในโลกความเป็นจริง อาจารย์แพทย์ มธ. เปิดรายงานล่าสุดจากชิลี