ชาวกรุงธากา จำนวนมาก แห่เดินทางออกจากเมืองหลวงของบังกลาเทศ ก่อนถึงกำหนด เริ่มต้นบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 7 วัน ที่กำหนดให้ทุกคนจะต้องอยู่แต่ภายในที่พักอาศัย เว้นแต่มีเหตุฉุกเฉิน พร้อมสั่งปิดบริการขนส่งสาธารณะทั้งหมด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ชาวบังกลาเทศจำนวนมาก พากันเร่งรีบเดินทางออกจากกรุงธากา เมืองหลวงของประเทศ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) รัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่เดิมนั้น รัฐบาลบังกลาเทศ กำหนดที่จะเริ่มดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) เป็นต้นไป แต่เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ได้เปลี่ยนการตัดสินใจใหม่ จะเริ่มดำเนินมาตรการล็อกดาวน์นาน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป
กระนั้นก็ตาม เจ้าหน้าที่บังกลาเทศ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเริ่มมีการล็อกดาวน์เป็นบางส่วนก่อน ซึ่งคำสั่งล็อกดาวน์นี้ ทำให้ชาวกรุงธากาพากันเร่งออกจากเมือง จนทำให้เส้นทางสัญจรทั้งทางน้ำ และทางบก ที่ออกจากกรุงธากา แน่นขนัดไปด้วยผู้คน ที่ส่วนใหญ่จะเดินทางไปยังพื้นที่ภาคใต้ และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
ทั้งนี้ บังกลาเทศ มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธฺุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย
การระบาดระลอกล่าสุดนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 6 สัปดาห์ก่อน โดยในวันที่ 15 พฤษภาคม มีผู้ป่วยรายใหม่ 261 คนและเสียชีวิต 22 ราย จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) มีผู้ป่วยรายใหม่ 5,869 คนและเสียชีวิต 108 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศนับตั้งแต่พบการระบาด โรงพยาบาลหลายแห่งมีผู้ป่วยเต็มความสามารถแล้ว
ทางการบังกลาเทศ ย้ำถึงการตัดสินล็อกดาวน์ว่า จำเป็นต้องใช้มาตรการที่มีความเข้มงวด เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับอินเดีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ระบาดเร็วกว่าเบตา ต้นตอระลอก 3 ในแอฟริกาใต้
- ไต้หวันพบครั้งแรก ‘สายพันธุ์เดลตา’ ระบาดในชุมชน
- อินโดฯ ช็อก หมอ 14 คน สังเวยโควิด แม้ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส
