COVID-19

คำตอบอยู่นี่! ทำไมอาการตอบสนองต่อ ‘วัคซีนโควิด’ ถึงแตกต่างกัน

อาการข้างเคียงชั่วคราว เช่น อาการปวดศีรษะ เหนื่อยล้า และมีไข้ เป็นสัญญาณว่าระบบภูมิคุ้มกันของมุษย์เรากำลังทำงาน ซึ่งเป็นการที่ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนตามปกติ และเป็นเรื่องที่พบเห็นทั่ว ๆ ไป

นพ.ปีเตอร์ มาร์คส์ หัวหน้าฝ่ายงานวัคซีนขององค์การอาหารและยาสหรัฐ (CDC) ซึ่งมีอาการเหนื่อยล้า หลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มแรก แนะนำว่า หลังจากที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ควรทำกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้กำลังมาก ๆ

shutterstock 1944766009

เขากล่าวต่อไปว่า ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์เรา จะมีกลไกหลักอยู่ 2 อย่าง และกลไกแรกจะเริ่มทำงานทันที ที่ร่างกายตรวจพบสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย โดยเซลล์เม็ดเลือดขาว จะรวมตัวกันอยู่ในบริเวณนั้น ทำให้เกิดการอักเสบ จนทำให้เกิดอาการหนาวสั่น ปวดเมื่อย เหนื่อยล้า ตลอดจนผลข้างเคียงอื่น ๆ

ทั้งนี้ ขั้นตอนการตอบสนองอย่างรวดเร็วของระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์เรามักจะลดลงตามอายุ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนอายุน้อยกว่า รายงานผลข้างเคียงมากกว่าผู้สูงอายุ นอกจากนี้ วัคซีนบางชนิดอาจสามารถกระตุ้นปฏิกิริยาได้มากกว่าชนิดอื่นๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนมีการตอบสนองแตกต่างกัน หากผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่มีอาการอะไรเลย ในหนึ่งหรือสองวัน หลังจากที่ฉีดวัคซีนทั้ง 2 เข็ม ก็ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนไม่ทำงาน

นอกจากนี้แล้ว วัคซีนยังทำให้กลไกที่สอง ของระบบภูมิคุ้มกันเริ่มทำงาน ซึ่งจะทำให้เกิดการป้องกันไวรัสอย่างแท้จริง ด้วยการสร้างแอนติบอดี หรือสารภูมิต้านทานโรค

ผลข้างเคียงอีกประการหนึ่งคือ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันทำงาน บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการบวมในต่อมน้ำเหลืองชั่วคราว เช่น ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้วงแขน ผู้หญิงควรนัดแพทย์ เพื่อทำแมมโมแกรมประจำปี ก่อนที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดว่า ต่อมน้ำเหลืองที่บวมอยู่นั้น คือ ก้อนมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเสมอไป และหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรหลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยมีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พบว่ามีผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงอยู่ไม่กี่คน

สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นั้น พบว่ ามีผู้ที่มีอาการลิ่มเลือดผิดปกติอยู่ในอัตราส่วนที่เล็กน้อย บางประเทศสั่งจองวัคซีนดังกล่าวไว้สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลกล่าวว่า ประโยชน์ของวัคซีนชนิดนี้ยังมีมากกว่าความเสี่ยง

โดยทั่วไปมนุษย์เรามักจะมีอาการแพ้อย่างรุนแรงเป็นครั้งคราว ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ต้องนั่งอยู่เฉย ๆ ประมาณ 15 นาทีหลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าปฏิกิริยาใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

อย่างไรก็ดี ทางการกำลังพยายามตรวจสอบว่า อาการหัวใจอักเสบชั่วคราว ที่อาจเกิดขึ้นกับการติดเชื้อหลายประเภท อาจเป็นผลข้างเคียงที่ไม่พบบ่อยนัก หลังจากที่ฉีดวัคซีนชนิด mRNA อย่างไฟเซอร์ และโมเดอร์นาหรือไม่ โดยกำลังติดตามศึกษาคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นชาย หรือผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาว

เอกสารจาก CDC ระบุว่า มีการรายงานผู้ป่วยจำนวนมากกว่า 1,200 ราย ที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา  รวมถึง วัยรุ่นที่มีอายุ 16-24 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาย มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบ หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา

ทั้งนี้ ผู้ป่วยจำนวน 267 รายมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาจำนวน 1 เข็ม และจำนวน 827 รายมีอาการดังกล่าว หลังจากได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม

นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วย 132 รายที่มีอาการเช่นกัน แต่ไม่มีการระบุว่าได้รับการฉีดวัคซีนกี่เข็ม  อย่างไรก็ดี ผู้ที่มีอาการดังกล่าวส่วนใหญ่ หรือราว 80% จะมีอาการดีขึ้นจนเป็นปกติ หลังจากที่ได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ที่มา : VOA

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo