ตลาดหุ้นโตเกียว เปิดซื้อขายในวันนี้ (15 พ.ย.) ปรับตัวลดลง จากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น และการปรับตัวลงของดัชนีหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกในเรื่องต่างๆ รวมถึง ความไม่แน่นอนในเรื่องเบร็กซิท และราคาน้ำมันร่วงลง
ดัชนีนิกเคอิ เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 84.60 จุด หรือ 0.39% มาอยู่ที่ 21,761.88 จุด ขณะที่เงินเยนเคลื่อนไหวในระดับ 113.53 เยนต่อดอลลาร์
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดญี่ปุ่นกำลังซึมซับกับผลประกอบการที่ไม่น่าประทับใจของหุ้นสหรัฐ ทั้งเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ยังทำให้นักลงทุนตีตัวออกห่าง ไม่มีการเข้าซื้ออย่างคึกคัก
นอกจากนี้ บรรดาเทรดเดอร์ค่าเงิน ก็กำลังจับตามองในปลายปัจจัย รวมถึง ราคาน้ำมันที่ร่วงลง เบร็กซิท และประเด็นเรื่องการคลังอิตาลี
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดที่ 25,080.50 จุด ลดลง 205.99 จุด หรือ 0.81% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,701.58 จุด ลดลง 20.60 จุด หรือ 0.76% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,136.39 จุด ลดลง 64.48 จุด หรือ 0.90%
ดัชนีสหรัฐเดินสู่ขาลง ภายใต้การนำของแอปเปิล ที่ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างหนัก จากความกังวลที่ว่า แอปเปิลอาจประสบปัญหายอดขายไอโฟนตกต่ำในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น จะนำไปสู่การใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อภาคธนาคาร
ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 56.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 66.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังมีรายงานว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) สนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ เพื่อสร้างความสมดุลในตลาดน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,210.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์
