โกลด์แมน แซคส์ คาด “ราคาน้ำมันดิบเบรนท์” อาจพุุ่งขึ้นถึง 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ช่วงกลางปีนี้ หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดที่เพิ่มมากขึ้น หนุนให้เกิดกิจกรรมต่างๆ ในสหรัฐ-ยุโรปเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับความต้องการเพิ่มสูงขึ้นด้วย
วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ “โกลด์แมน แซคส์” ออกรายงานคาดการณ์ในวันนี้ (11 มิ.ย.) ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) มีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงกลางปีรนี้ และคาดว่าภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันจะยังคงคึกคักต่อไป เนื่องจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะยานขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีแล้ว ที่ 72.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แรงหนุนจากความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลก และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่สดใสมากขึ้น เทียบกับช่วงเดือนเมษายน ปี 2563 ที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ดิ่งลงไปอยู่ที่ 24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เคลื่อนไหวล่าสุด ที่ระดับ 72.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ของสหรัฐ เคลื่อนไหวที่ระดับราว 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้การเดินทางสัญจรในสหรัฐและยุโรปเพิ่มขึ้นด้วย โดยความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 96.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
วาณิชธนกิจรายนี้ คาดว่า การฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมประเมินว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 99 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ ความล่าช้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน อาจส่งผลกระทบต่อการจัดหาน้ำมัน และจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ อิหร่าน และกลุ่มชาติมหาอำนาจของโลก เปิดเจรจากันมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ถึงการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอิหร่านอย่างรุนแรง จากการที่ต้องลดปริมาณการส่งออกน้ำมัน
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า คาดการณ์ว่า แม้อิหร่าน และสหรัฐ จะกลับไปปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ แต่การคว่ำบาตรของสหรัฐในด้านต่าง ๆ ก็จะยังอยู่ต่อไป
โกลด์แมน แซคส์ ชี้ว่า ความคืบหน้าในการเจรจาดังกล่าว ทำให้ธนาคารคาดการณ์ว่า อิหร่านจะยังไม่สามารถเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันได้ อย่างน้อยจนถึงปลายปีนี้
เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ออกมาคาดการณ์ว่า ในปี 2564 ทั่วโลกจะมีความต้องการน้ำมัน เพิ่มขึ้น 6.6% หรือราว 5.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากรายงานในเดือนพฤษภาคม
โอเปคระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะช่วยหนุนความต้องการน้ำมันให้เพิ่มมากขึ้น ในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศในช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ ทางกลุ่ม ยังประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 5.5% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่คาดว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเบาบางลงในช่วงครึ่งปีหลัง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราคาน้ำมันดิบ ดีดตัว เหนือ 70 ดอลลาร์ ขานรับรายงาน ‘โอเปค’
- แนวโน้มราคาน้ำมันโลกขยับขึ้น จากแรงหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว
- ปตท.คาดราคาน้ำมันแนวโน้มขยับขึ้น แม้อิหร่านจะกลับมาส่งออกอีกครั้ง