กองทัพเรือศรีลังกา หยุดปฏิบัติการลากจูงเรือเอ็กซ์ เพรส เพิร์ล ที่ถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง หลังจากส่วนท้ายลำเรือจมลงสู่พื้นทะเล สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความวิตกว่า อาจเกิดหายนะด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์
วันนี้ (3 มิ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “เอ็กซ์ เพรส เพิร์ล “เรือสินค้าสัญชาติสิงคโปร์ ที่เกิดไฟไหม้ต่อเนื่องติดต่อกันมาเกือบ 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะสามารถดับไฟได้ในสัปดาห์นี้ ได้จมลงสู่ก้นทะเล นอกชายฝั่งกรุงโคลัมโบ ของศรีลังกา สถานการณ์ที่ทำให้กองทัพเรือศรีลังกา ยุติการลากจูงเรือลำนี้แล้ว และทำให้เกิดความวิตกอย่างมากว่า จะทำให้เกิดหายนภัยด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลครั้งรุนแรงสุด ในประวัติศาสตร์ศรีลังกา
เรือบรรทุกสินค้าลำนี้ เกิดระเบิด และไฟไหม้ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะทอดสมออยู่นอกชายฝั่งด้านตะวันตกของศรีลังกา โดยคาดว่าอาจเป็นเพราะสารเคมีที่อยู่บนเรือ
ที่ผ่านมา กองทัพเรือศรีลัง และอินเดีย ได้ดำเนินความพยายามร่วมกัน ในการดับไฟ และป้องกันไม่ให้เรือแตก และจมลงทะเล แต่สภาพของท้องทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่นลมแรง เนื่องจากอยู่ในฤดูมรสุม กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำงาน
เมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้เรือ ได้พยายามลากเรือออกไปสู่ร่องน้ำลึก เพื่อลดความเสี่ยงถึงการเกิดมลพิษ ต่อชายฝั่งทะเลให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ระหว่างการลาก ท้ายเรือได้จมลงสู่ก้นทะเล ทำให้ต้องยกเลิกภารกิจนี้
ขณะที่ เอ็กซ์ เพรส ฟีดเดอร์ส เจ้าของเรือลำนี้ เปิดเผยในวันนี้ว่า ส่วนท้ายของเรือได้จมลงไปอยู่ก้นทะเล ที่ความลึกประมาณ 21 เมตร และตัวเรือส่วนหน้า ก็กำลังจมลงอย่างช้า ๆ
ทางด้านอินดิกา เดอ ซิลวา โฆษกกองทัพเรือศรีลังกา ให้รายละเอียดว่าหัวเรือยังอยู่เหนือแนวน้ำ
“ต่อให้หัวเรือจมลงไปอยู่ก้นทะเลแล้ว แต่ก็ยังมีส่วนของดาดฟ้าชั้นบน และสะพานเรือ ที่ยังอยู่พ้นน้ำ”
เขายืนยันด้วยว่า ยังไม่พบว่ามีน้ำมันรั่วไหลออกมาจากตัวเรือแต่อย่างใด แต่ก็ได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการรั่วไหล ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
ส่วน อาจานธา เปเรรา นักสิ่งแวดล้อมชาวศรีลังกา เชื่อว่า เรือที่จมลงนั้น บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สินค้าอันตราย 81 ตู้ และน้ำมันดิบอีกราว 400 ถัง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดหายนะด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศนี้
หน่วยงานด้านการดูแลทะเลของศรีลังกา ระบว่า ได้เตรียมเครื่องมือรับมือกับหายนะภัยทางทะเลที่เกิดขึ้นไว้หมดแล้ว ทั้งทุ่นยาวเพื่อล้อมคราบน้ำมัน เครื่องมือเก็บคราบน้ำมัน ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ และสารขจัดคราบน้ำม้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ท่าเรือแหลมฉบังเปิดจุดรับคำร้อง ชาวบ้านเจอผลกระทบไฟไหม้เรือสินค้า
- กทท. เฝ้าระวัง ‘เรือสินค้าจีน’ สั่งบริษัทต้องรายงานข้อมูลลูกเรือป่วย
- เดินหน้าเคลียร์ ‘คลองสุเอซ’ อียิปต์ คาด นานสุด 4 วัน เรือกว่า 400 ลำ พ้นคลอง