กองทัพเมียนมา ประกาศยุติการหยุดยิงทั่วประเทศนาน 1 เดือน พร้อมระงับปฏิบัติการทางทหาร ต่อชนกลุ่มน้อยทั้งหมด ยกเว้นในกรณีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านการป้องกัน และการเหตุการณ์ที่อาจจะส่งผลต่อความมั่นคง และการบริหารของรัฐบาล
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมียนมา ระบุว่า การหยุดยิงดังกล่าว จะเปิดทางให้มีการเจรจาสันติภาพ และทำให้จัดงานฉลองเทศกาลทิงยัน หรือเทศกาลน้ำได้
เขายังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการเจรจา เพื่อทำให้เกิดสันติภาพขึ้นมา
ทางด้านนายโค โบจี เลขาธิการร่วมสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) ยังคงตั้งข้อสงสัยว่า การหยุดยิงดังกล่าว จะยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ประท้วงจริงหรือไม่
เขาบอกว่า รัฐบาลทหารไม่ได้ประกาศหยุดยิงกับประชาชน แม้ว่าพวกเขาจะประกาศหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธก็ตาม
“พวกเขาจะยังสังหาร และทรมานประชาชนที่ไร้อาวุธต่อไป”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากทหารเมียนมาปะทะกับกองกำลังกลุ่มสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ส่งผลให้มีชาวกะเหรี่ยงหลายพันคน ในพื้นที่ควบคุมของกลุ่มชาติพัน ธุ์ต้องหลบหนีภัยการสู้รบมายังไทย
ขณะที่กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ยังไม่แสดงท่าทีต่อการประกาศหยุดยิงของกองทัพเมียนมา หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่ม ประณามการทำรัฐประหารและให้คำมั่นว่าจะปกป้องประชาชนในฐานที่มั่นของแต่ละกลุ่ม
ทางด้านนางคริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษองค์การสหประชาชาติด้านกิจการเมียนมา เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ดำเนินมาตรการร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นในเมียนมา
อย่างไรก็ดี ผู้แทนถาวรจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวย้ำต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า ข้อเรียกร้องให้ใช้มาตรการคว่ำบาตร หรือการใช้มาตรการแข้งกร้าวกับเมียนมา ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เนื่องจากมาตรการดังกล่าว จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น
เขายังยืนยันว่า จีนต้องการให้เมียนมาเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากการรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพในเมียนมา ถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ ลงพื้นที่แม่ฮ่องสอนพรุ่งนี้ เตรียมพร้อมรับมือผู้อพยพเมียนมา
- ‘รมว.ต่างประเทศ’ เตรียมประชุมอาเซียนถกสถานการณ์เมียนมา
- ‘บิ๊กป้อม’ เผยยังไม่ผลักดัน ‘ชาวเมียนมา’ กลับประเทศ ต้องดูแลก่อน