World News

แนวใหม่! เมียนมาจัดประท้วง ‘ขยะ’ เทเกลื่อนถนนต้านรัฐประหาร ยอดดับทะลุ 500

ผู้ประท้วงในย่านต่าเก่ตะ ทางตะวันออกของนครย่างกุ้ง ในประเทศเมียนมา นำขยะมาเทเกลื่อนถนน ในวันนี้ (30 มี.ค.) เพื่อประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  ขณะยอดรวมผู้เสียชีวิต จากการสลายการชุนนุมทั่วประเทศมีจำนวนมากกว่า 500 คนแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงต้านรัฐประหารในเมียนมา ได้ดำเนินกลยุทธ์ใหม่ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการอาระขัดขืน ต่อรัฐบาลทหารมากขึ้น ด้วยการขอให้ประชาชนในนครย่างกุ้ง พร้อมใจกัน เทขยะลงบนพื้นถนนสายหลัก ๆ ของเมืองต่าง ๆ

เมียนมา ประท้วง

“การประท้วงขยะนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านรัฐบาลทหาร” ข้อความบนโปสเตอร์ ที่เผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ระบุ

การเคลื่อนไหวนี้ ยังถือเป็นการต่อต้านข้อเรียกร้องของทางการ ที่มีการประกาศเสียงตามสาย ในบางพื้นที่ของนครย่างกุ้ง ให้ชาวเมืองทิ้งขยะอย่างเหมาะสม

ทางด้านสมาคมช่วยเหลือเพื่อนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) เผยว่า มีพลเรือนถูกสังหารทั่วเมียนมา 14 คนแล้ว เมื่อวันจันทร์ (29 มี.ค.) ซึ่ง 8 คนในกลุ่มนี้ถูกยิงเสียชีวิตที่เขตดะโก่งใต้ในนครย่างกุ้ง

การเสียชึวิตดังกล่าว ทำให้จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในช่วงเวลาเกือบ 2 เดือน หลังจากรัฐประหารครั้งล่าสุดมาอยู่ที่อย่างน้อย 510 คนแล้ว ซึ่งการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 มี.ค.) เป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดที่ 141 คน

ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน เผยว่า เมื่อวันจันทร์ (29 มี.ค.) ทหารและตำรวจเมียนมาใช้อาวุธหนักกว่าที่เคยใช้ตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นอาวุธรุ่นใด

ด้านสถานีโทรทัศน์ของทหารเมียนมา กล่าวออกอากาศโจมตีผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารอย่างหนักว่าเป็น “กลุ่มคนก่อการร้ายด้วยความรุนแรง”

ส่วนชาวเขตดะโก่งใต้คนหนึ่ง เผยว่า ได้ยินเสียงปืนตลอดทั้งคืน

เมียนมา ประท้วง

ด้านนายอันโตนิอู กูเตอร์เรซ เลขาธิการใหญ่ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้ทหารเมียนมาหยุดฆ่าประชาชน และยุติการปราบปรามผู้ชุมนุม

การใช้ความรุนแรงดังกล่าวของทหารเมียนมา สร้างความกังวลให้กับกลุ่มกองกำลังในประเทศเพิ่มเติมอีกหลายกลุ่ม อย่างเช่นเมื่อไม่นานมานี้ ที่กลุ่มกองกำลัง ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา  กองกำลังอาระกัน และกองกำลังปลดแอกแห่งชาติตะอาง เตือนกองทัพเมียนมาว่า ถ้าไม่หยุดฆ่าประชาชนที่ชุมนุมด้วยความสงบ พวกตนจะร่วมมือกับกองกำลังอื่นๆ เพื่อต่อสู้กับกองทัพเมียนมา

ส่วนกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู/KNU) ที่ต่อสู้กับกองทัพเมียนมามาอย่างยาวนาน แต่เคยลงนามหยุดยิงไปแล้ว ก็กลับมาต่อสู้อีกครั้ง ที่ทำให้ชาวบ้านราว 3,000 คน หนีมายังประเทศไทย หลังจากกองทัพเมียนมานำเครื่องบินไปทิ้งระเบิดพื้นที่ของกลุ่ม KNU เพื่อแก้แค้นที่ KNU ยึดฐานทัพ และฆ่าทหารไป 10 คน

‘เมียนมา’ หนีสงคราม ทะลักเข้าไทยกว่า 2 พันคน

หน่วยข่าวความมั่นคงของไทย  รายงานว่า มีชาวเมียนมา เชื้อสายกะหรี่ยงในเขตรับผิดชอบ ของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ KNU ได้อพยพหลบหนีภัยสงคราม จากรัฐกะเหรี่ยง จำนวน 1,900 คน เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ฐานออเลาะ ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จำนวน 300 คน

อกจากนี้ ยังมีที่หลบหนีมาจากห้วยอูแวโกร พื้นที่พักพิงของเมียนมา เข้ามาอาศัยในไทย ที่ บ้านแม่ดึ หมู่ 5 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง 300 คน มาจากห้วยอีทูโกร เขตเมียนมา เข้ามาอาศัยในไทย ที่ฐานแม่สะเกิบ บ้านห้วยกองแป หมู่ 3 ตำบลแม่คง ฯ จำนวน 1,300 คน รวมได้มีผู้อพยพเข้ามาอาศัยในไทย ในพื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง ปัจจุบัน จำนวน 2,194 คน

ต่อมา กองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบิน แบบ JF 17 ที่ผลิตในประเทศจีน จำนวน 4 ลำ จากฐานบินเมืองตองอู เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ KNU ฐานชิกอท่า ที่ตั้ง กองบัญชาการหน่วยรบพิเศษ กองพลน้อยที่ 5 ตรงข้ามอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ทหารกะเหรี่ยง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์เกี่ยวกับผู้อพยพดังกล่าวว่า สถานการณ์ในเมียนมา รุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้อพยพ หลบหนีเข้ามาอาศัยในไทย ล่าสุด จำนวน 2,194 คน และคาดว่าน่าจะมีการหลบหนีเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ทางจังหวัดจะต้องรอคำสั่งจากรัฐบาล ในเรื่องการเข้าไปดูแลผู้ลี้ภัยกลุ่มดังกล่าว ซึ่งได้มีการวางแผนเตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้ว ที่อำเภอขุนยวม แต่เป็นพื้นที่คนละจุดกัน ซึ่งตอนนี้ผู้อพยพดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารพราน จากกรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง จัดกำลังเข้าไปควบคุมดูแลเบื้องต้นแล้ว

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง ระบุว่า ตอนนี้ทางฝ่ายปกครองยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับผู้อพยพที่ชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตรับผิดชอบของทหาร และห้ามหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลผู้อพยพเหล่านั้น

ภาพ : เฟซบุ๊กเพจ Myanmar Now

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo