กลุ่มนักศึกษา และนักวิชาการต่อต้านพฤติกรรมไม่เหมาะสมของธุรกิจ (ซาคอม) ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ออกรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตรวจพบมีเด็กนักเรียนทำงานในโรงงานประกอบนาฬิกาแอปเปิล วอทช์ ที่โรงงานของบริษัทควอนต้า คอมพิวเตอร์ ในเมืองฉงชิ่ง ของจีน
ทางกลุ่มยังกล่าวหาว่า เด็กนักเรียนอายุระหว่าง 16-19 ปี ถูกทางโรงเรียนของตัวเอง บังคับให้มาทำงานในโรงงาน ผ่านการกำหนดหลักสูตรฝึกงานภาคบังคับ แต่ส่วนใหญ่ถูกให้ไปทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการเรียนของตัวเอง และบ่อยครั้งที่ต้องทำงานล่วงเวลาหลายชั่วโมง
ทั้งในบางกรณียังถูกกำหนดให้เข้ากะกลางคืนด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นการละเมิดกฎหมายจีน และมาตรฐานของบริษัทแอปเปิล
ข้อกล่าวหาดังกล่าวเน้นให้ถึงความท้าทายที่แอปเปิล บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่มีมูลค่ามากสุดในโลก ต้องเผชิญในการติดตามตรวจสอบซัพพลายเชนที่มีอยู่จำนวนมากทั่วโลก
ทางด้านแอปเปิลออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (29 ต.ค.)ว่า บริษัทได้เข้าไปตรวจสอบโรงงานของบริษัทควอนต้า ในเมืองฉงชิ่ง 3 ครั้ง ระหว่างเดือนมีนาคม-มิถุนายนที่ผ่านมา และไม่พบเด็กนักเรียนนักศึกษาทำงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของแอปปิลในช่วงเวลาดังกล่าว
“เรากำลังเร่งตรวจสอบรายงานที่ว่า มีเด็กนักเรียนนักศึกษา ที่เข้าไปฝึกงานเมื่อเดือนกันยายนต้องทำงานล่วงเวลา และเข้ากะกลางคืน”
แอปเปิล ระบุด้วยว่า บริษัทจะไม่อดทนต่อการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ และให้คำรับรองที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน และเหมาะสม หากพบการละเมิดกฏข้อบังคับที่กำหนดไว้
ขณะที่ควอนต้า คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในไต้หวัน ปฏิเสธในข้อกล่าวหาข้างต้น พร้อมยืนยันว่า บริษัทปฏิบัติตามมาตรฐานผู้บริโภคมาโดยคบอด และจะให้ความร่วมมือกับแอปเปิลตรวจสอบเรื่องนี้
ทั้งนี้ รายงานของซาคอม จัดทำขึ้นจากการสัมภาษณ์วัยรุ่นมากกว่า 20 คน ซึ่งทำงานในโรงงานที่ฉงชิ่งช่วงฤดูร้อนนี้ ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 18 ปีรายหนึ่ง อ้างว่า พวกเธอทำงานในส่วนประกอบนาฬิกาแอปเปิล วอทช์ ที่โรงงานกำหนดเป้าให้ประกอบได้ 1,200 เรือนต่อวัน
“เราเหมือนกับหุ่นยนต์ที่อยู่บนสายการผลิต เราทำขั้นตอนแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นร้อยเป็นพันครั้งทุกวัน”
ที่ผ่านมา แอปเปิลเคยตกเป็นเป้าโจมจี ในเรื่องการปฏิบัติต่อแรงงานของซัพพลายเชนบริษัทมาก่อนแล้ว รวมถึง การใช้แรงงานเด็กนักเรียนแบบผิดกฎหมาย
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แอปเปิล และฟ็อกซ์คอนน์ หนึงในซัพพลายเออร์รายใหญ่สุดของบริษัท ยอมรับว่า มีเด็กนักศึกษาฝึกงานทำงานล่วงเวลาแบบผิดกฎหมาย ที่โรงงานผลิตไอโฟน X ในจีน ซึ่งในเวลานั้น แอปเปิลระบุว่า ได้ส่งพนักงานไปยังโรงงาน เพื่อจัดการกับการกระทำผิดนี้
ส่วนฟ็อกซ์คอนน์ ให้สัมภาษณ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ในเดือนเดียวกันว่า งานทั้งหมดเป็นการสมัครใจทำ และได้รับค่าแรงอย่างเหมาะสม แต่การให้เด็กฝึกงานทำงานล่วงเวลา ถือเป็นการทำผิดนโยบายของบริษัท พร้อมระบุว่า ได้มีการดำเนินมาตรการในทันทีเพื่อให้มั่นใจว่า ไม่มีการให้เด็กฝึกงานทำงานล่วงเวลาอีก
นับตั้งแต่ปีที่แล้ว แอปเปิลได้กำหนดให้ซัพพลายเออร์ ต้องจำกัดจำนวนเด็กฝึกงานที่โรงงานต่างๆ ให้ไม่เกิน 10% ของจำนวนแรงงานโดยรวมทั้งหมด
