“กิจการร่วมค้าระหว่างไชน่า เซาท์เทิร์น พาวเวอร์ กริด” และ”การไฟฟ้าลาว” ลงนามสัญญาสัมปทาน กับรัฐบาลลาวในนครหลวงเวียงจันทน์ ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้าระดับชาติลาว เพื่อลงทุน ก่อสร้าง โครงข่ายไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์ขึ้นไป
เมื่อวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ที่ผ่านมา อิเล็กทริไซต์ ดู ลาว ทรานสมิชชัน คอมปานี ลิมิเต็ด (EDL-T) กิจการร่วมค้าระหว่างบริษัทไชน่า เซาท์เทิร์น พาวเวอร์ กริด (CSG) และการไฟฟ้าลาว ลงนามสัญญาสัมปทานกับรัฐบาลลาวในนครหลวงเวียงจันทน์ โดยมี สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนพัฒนาและการลงทุน เจียงไจ้ตง เอกอัครราชทูตจีนประจำลาว รวมถึงคณะผู้แทนจากฝ่ายลาวและจีน
สัญญาสัมปทานข้างต้นระบุว่า กิจการร่วมค้าจะรับผิดชอบให้บริการโครงข่ายไฟฟ้าระดับชาติลาว เพื่อลงทุน ก่อสร้าง และดำเนินการโครงข่ายไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์ขึ้นไปในลาว ตลอดจนจัดการโครงการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างลาวกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลลาว
กิจการร่วมค้าจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนลาว ด้วยการส่งมอบพลังงานที่ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และยั่งยืน ช่วยเพิ่มพูนการใช้พลังงานน้ำของลาว เปลี่ยนผ่านทรัพยากรน้ำให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และปั้นลาวสู่สถานะโรงไฟฟ้าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คําจัน วงแสนบูน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงฯ กล่าวในพิธีลงนามว่ากิจการร่วมค้า เป็นโครงการที่รัฐบาลลาวให้ความสำคัญ และการลงนามสัญญาสัมปทานถือเป็นชัยชนะและความคืบหน้าครั้งสำคัญ โดยกิจการร่วมค้าจะสนับสนุนการจัดการและการดำเนินงานของโครงข่ายไฟฟ้าระดับชาติลาวอย่างเป็นระบบ จัดสรรพลังงานไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น และอำนวยความสะดวกแก่การพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศ
คําจันกล่าวว่ากระทรวงฯ และหน่วยงานอื่นของรัฐบาลลาวจะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกอย่างรอบด้าน เพื่อรับประกันว่าโครงการบรรลุเป้าหมายตามแผนการ และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
เอกอัครราชทูตเจียง กล่าวว่าในฐานะอุตสาหกรรมและเสาหลักพื้นฐาน ไฟฟ้าเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างประชาคมจีน-ลาว ที่มีอนาคตร่วมกัน ทำหน้าที่เสมือนตัวขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยการเป็นแบบอย่างความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน-ลาว เราสามารถยกย่องปีแห่งมิตรภาพจีน-ลาว 2021 และเดินหน้าส่งเสริมการสร้างประชาคมจีน-ลาวที่มีอนาคตร่วมกันต่อไป”
จางเหวินเฟิง รองประธานไชน่า เซาท์เทิร์น พาวเวอร์ กริด เผยว่าบริษัท จะทำงานร่วมกับการไฟฟ้าลาว เพื่อติดตามงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้า เพิ่มพูนประสิทธิภาพการก่อสร้าง และเสริมสร้างการดำเนินงานที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้าลาว โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือปรับปรุงการจ่ายไฟฟ้าในลาว เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนลาว
อนึ่ง การไฟฟ้าลาวและไชน่า เซาท์เทิร์น พาวเวอร์ กริด ลงนามข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้นเพื่อร่วมจัดตั้งกิจการร่วมค้าเมื่อเดือนกันยายน 2020
ก่อนหน้านี้ สำนักบริหารพลังงานแห่งชาติจีน (NEA) รายงานว่าการเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างจีนและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อันได้แก่ ลาว รัสเซีย เมียนมา และเวียดนาม มีปริมาณรวมอยู่ที่ 2.6 ล้านกิโลวัตต์ เมื่อนับถึงสิ้นปี 2020
รายงานระบุว่าจีนยกระดับการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการปรับปรุงความมั่นคงทางพลังงาน การจัดสรรทรัพยากรพลังงานอย่างเหมาะสม และการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
สำนักฯ เสริมว่าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมของจีน รวมถึงโครงการอื่นๆ ในกลุ่มประเทศตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) นับเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ชาญฉลาดและบริสุทธิ์สำหรับพื้นที่ท้องถิ่น ทั้งยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาคาร์บอนต่ำในภูมิภาคเหล่านี้ได้อย่างมหาศาล
ที่มา:สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลาวเล็งตรวจ ‘เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ’ ทุก 5 ปี เดินหน้าสร้างให้ครบ 100 แห่ง
- ลาวเดินหน้าสร้าง ‘เขื่อนหลวงพระบาง’ บนแม่น้ำโขง เมินเสียงคัดค้าน 3 ชาติ
- ผ่อนผันต่างด้าว 3 สัญชาติ ‘กัมพูชา ลาว เมียนมา’ กรณีพิเศษ ย้ำต้องตรวจโควิด