สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เรียกร้องกองทัพเมียนมา ยุติการใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ประท้วงต้านรัฐประหาร หลังวันนี้ มีผู้ชุมนุมโดนยิงเสียชีวิตอีกอย่างน้อย 9 ราย
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรโรมันคาทอลิก กล่าวระหว่างการเสด็จพบศาสนิกชนในวันนี้ (3 มี.ค.) เรียกร้องให้กองทัพเมียนมา ยุติการใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร และขอให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง พร้อมดำเนินขั้นตอนต่างๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่การฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศ
“ข้าพเจ้าปราถนาที่จะเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ใช้การเจรจา แทนการปราบปราม และให้มีความปรองดองกัน แทนที่ความขัดแย้ง”
ประมุขคริสตจักรโรมันคาทอลิก ยังขอให้ประชาคมโลก ทำให้เกิดความมั่นใจว่า ความหวังของชาวเมียนมา จะไม่ถูกปิดกั้นด้วยความรุนแรง
“ขอให้คนหนุ่มสาว ที่รักแผ่นดินเกิด ได้มีความหวังถึงอนาคต ที่ซึ่งความเกลียดชัง และความอยุติธรรม ถูกละทิ้งไป แทนที่ด้วยการหันหน้าเข้าหากัน และมีความกลมเกลียวกัน ”
“ท้ายที่สุดแล้ว ข้าพเจ้าขอย้ำถึงข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ที่ว่า ควรมีการฟื้นฟูการเดินทางสู่ประชาธิปไตยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของเมียนมาขึ้นมาหม่ ผ่านการแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการปล่อยตัวบรรดาแกนนำทางการเมืองที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้”
การออกมาเรียกร้องดังกล่าวของพระสันตะปาปาฟรานซิส มีขึ้นท่ามกลางการประท้วงต้านรัฐประหารในเมียนมา ซึ่งในวันนี้ มีผู้ประท้วงเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 9 ราย จากการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเมียนมา ใช้กระสุนจริงยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม
ผู้นำมวลชนของเมียนมากล่าวว่า ตำรวจได้สลายการชุมนุมด้วยการเดินเข้าหากลุ่มผู้ประท้วงพร้อมกับยิงแก๊สน้ำตา และขว้างระเบิดแสง รวมทั้งยิงด้วยกระสุนจริง โดยไม่มีการฉีดน้ำแรงดันสูง และไม่มีการเตือนให้เลิกชุมนุม
เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งได้เสียชีวิตในเมืองมยินจาน ส่วนในเมืองโมนยวามีผู้เสียชีวิต 5 ราย เมืองมัณฑะเลย์มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และเมืองย่างกุ้งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารในเมียนมาถึง 30 ราย นับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เมียนมานองเลือด! ทหารลั่นไกใส่ผู้ประท้วง วันเดียวดับ 18 ราย
- เมียนมายังไม่สงบ! กองทัพเตือนม็อบ เสี่ยง ‘เสียชีวิต’ ผู้ชุมนุมดับแล้ว 4 ศพ
- ช็อก! ‘นักศึกษา’ ประท้วงต้าน ‘รัฐประหารเมียนมา’ เสียชีวิตรายแรก
