“แจ็ค หม่า” ผู้ร่วมก่อตั้ง “อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง” สูญเสียตำแหน่ง บุคคลฐานะร่ำรวยสุดในจีน หลังอาณาจักรธุรกิจของเขาตกเป็นเป้าการตรวจสอบอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบ
หูรุน รีพอร์ต บริษัทด้านการวิจัย ซึ่งมีฐานการดำเนินงานอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ จีน เปิดเผยรายงานจัดอันดับความมั่งคั่งประจำปี 2564 โดยแสดงให้เห็นว่า ทรัพย์สินของนายหม่า และครอบครัว เพิ่มขึ้น 22% มาอยู่ที่ 360,000 ล้านหยวน หรือเกือบ 1,700 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ทำให้เขาติดอยู่ในอันดับ 4 ของบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยสุดในจีน
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นายหม่า ครองอันดับหนึ่งเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดของจีน แต่ในปีล่าสุดนี้ เขามีความมั่งคั่งน้อยกว่า นายจง ชานชาน เจ้าของบริษัทน้ำดื่มบรรจุขวด หนงฟู สปริง ที่ทะยานขึ้นมาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยสุดของจีน ด้วยทรัพย์สินมูลค่าราว 550,000 ล้านหยวน
ตามด้วย นายหม่า ฮัวเต็ง (โพนี่ หม่า) ผู้ก่อตั้งเทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง ด้วยมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 480,000 ล้านหยวน และ นายหวง เจิ้ง (คอลลิน หวง) เจ้าของบริษัทอีคอมเมิร์ช ปินเตาเตา ที่ 450,000 ล้านหยวน โดยมี นายจาง ยี่หมิง ผู้ก่อตั้ง ไบท์แดนซ์ เจ้าของสื่อสังคมออนไลน์ TikTok อยู่ในอันดับ 5 ที่ราว 349,000 ล้านหยวน
ทั้งนี้ นายจง จากหนงฟู สปริง ยังติดอยู่ในอันดับ 7 ของบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยสุดในโลก ที่ หูรุน จัดอันดับขึ้นด้วย โดยอันดับ 1 ตกเป็นของนายอีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทเทสลา ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ที่ 197,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 328%
ตามด้วยนายเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง อเมซอน ดอท คอม อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ที่ 189,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 35% และนายเบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าของหลุยส์ วิตตอง เครือสินค้าหรู ในอันดับ 3 ที่ 114,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7%
รายงานของ หูรุน ระบุว่า ความมั่งคั่งของนายหม่า ลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ทางการจีนเข้าตรวจสอบบริษัทอาลีบาบา และแอนท์ กรุ๊ปว่า ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดหรือไม่
ก่อนหน้านี้ บริษัทแอนท์ กรุ๊ป ถูกรัฐบาลจีนระงับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ทำให้สูญรายได้กว่า 37,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า น่าจะมาจากการที่นายหม่า ออกมาตำหนิการทำงานของหน่วยงานกำกับดูแล และระบบธนาคารของจีน โดยเขามองว่า ระบบธนาคารของจีนกีดกันการสร้างนวัตกรรม และปิดกั้นโอกาสใหม่ ๆ
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อาลีบาบาวัย 56 ปีผู้นี้ ก็หายหน้าไป ตั้งแต่ออกมากล่าวต่อที่ประชุมทางธุรกิจในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก่อนที่จะกลับมาปรากฎตัวต่อสาธารณชนอีกครั้งช่วงต้นปีนี้
แจ็ค หม่า หายไปไหนมา
ในช่วงหลายเดือนที่เขาไม่ปรากฎตัวต่อสาธารณชนนั้น หลายฝ่ายพากันตั้งคำถามว่าเขาหายไปไหน
ฉวน เริน ผู้ก่อตั้งไชน่า มาร์เก็ต รีเสิร์ช กรุ๊ป ในนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวถึงเรื่องการหายตัวของหม่า โดยอ้างว่า บุคคลที่รู้จักกับผู้ก่อตั้งอาลีบาบา บอกว่า หม่า ไม่ได้เผชิญกับเรื่องคดีความ หรือมีปัญหาทางกฎหมายแต่อย่างใด
“เขาได้รับบทเรียน จากที่โดนลงโทษมา และนี่คือสาเหตุ ที่ทำให้เขาเก็บตัวเงียบมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพื่อนของเขาบางคนบอกว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า หม่าจะโง่ได้ขนาดนี้”
ทีผ่านมา นักธุรกิจจีนรายอื่น ๆ อย่าง “หม่า ฮั่วเต็ง” ผู้ก่อตั้งเทนเซ็นต์ มักจะค่อนข้างเก็บตัว หลีกเลี่ยงการเจอนักข่าว และการปรากฎตัวในที่สาธารณะ แต่ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กลับแตกต่างออกไป โดยบ่อยครั้ง ที่เขามักจะไปปรากฎตัวอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ และเคลื่อนไหวอยู่บนโซเชียล มีเดีย
เมื่อปี 2560 เขายังทำตัวเหมือนกับเป็น “ผู้แทนธุรกิจอย่างไม่เป็นทางการของจีน” ระหว่างการเข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำอเมริกัน และให้คำมั่นถึงการสร้างงานในสหรัฐ
ครั้งสุดท้ายที่เขาออกงาน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมปีที่แล้ว เขายังวิจารณ์ เจ้าหน้าที่ดูแลกฎระเบียบทางการเงิน ของจีน ด้วยการบอกว่า เจ้าหน้าที่ดูแลกฎหมายของภาคการเงินจีนไม่มีเหตุผล พร้อมเรียกร้องให้คนเหล่านี้ คิดอะไรใหม่ ๆ มากขึ้น
หม่า ระบุด้วยว่า การทำตามกฎของระบบธนาคารโลกภายใต้ข้อตกลงบาเซิลนั้น เป็นเรื่องของ “คนแก่”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทวงคืนบัลลังก์! ‘เจฟฟ์ เบโซส’ ผงาด ‘มหาเศรษฐี’ เบอร์หนึ่งโลก
- ‘อีลอน มัสก์’ คว่ำ ‘เจฟฟ์ เบโซส’ ขึ้นแท่น ‘รวยสุด’ ในโลก
- ‘แจ็ค หม่า’ กลับมาแล้ว กูรูชี้ ที่หายตัวไป ‘แค่ได้บทเรียน’
