อินโดฯ คาด “คันเร่งอัตโนมัติ” ผิดปกติ สาเหตุเครื่องโบอิง “ศรีวิชัย แอร์” เที่ยวบิน SJ182 ตกทะเล
รายงานการสอบสวนเบื้องต้นจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมขนส่งแห่งชาติ (NTSC) ของอินโดนีเซีย กรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินศรีวิชัย แอร์ (Sriwijaya Air) ประสบเหตุพุ่งตกทะเลเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2564 ระบุว่า ระบบควบคุมกำลังเครื่องยนต์อัตโนมัติของเครื่องบินมีความผิดปกติที่คันเร่งทั้งด้านซ้ายและขวา
“คันเร่งอัตโนมัติด้านซ้ายเคลื่อนที่ไปข้างหลังมากเกินไป ขณะที่คันเร่งด้านขวาไม่ขยับเลย ดูเหมือนว่ามันจะติดขัด แต่เราไม่แน่ใจว่าส่วนไหนที่ทำงานผิดปกติ” สุรจันโต จาห์โจโน ประธานคณะกรรมการฯ กล่าว
รายงานฉบับข้างต้นอ้างอิงข้อมูลจากเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (FDR) ที่ถูกกู้คืนมาแล้ว ส่วนเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (CVR) ยังไม่ถูกกู้คืน โดยคณะกรรมการฯ ชี้ว่า มีความเสียหายที่อุปกรณ์ 2 จุด ซึ่งถูกซ่อมแซมแล้ว ได้แก่ เครื่องวัดความเร็วเครื่องบินและคันเร่งอัตโนมัติที่ทำงานผิดปกติ
“หลังวันที่ 5 มกราคม 2564 จนถึงวันที่เกิดเหตุ เราไม่พบบันทึกรายการบำรุงรักษา (DMI) ในสมุดบันทึกการบำรุงรักษาอากาศยาน” จาห์โจโนกล่าว พร้อมอธิบายว่าเครื่องบินของสายการบินฯ เที่ยวบินเอสเจ182 (SJ 182) เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติโซการ์โน-ฮัตตา เมื่อ 14.36 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเครื่องบันทึกข้อมูลการบินได้บันทึกว่าเครื่องบินเปิดใช้งานการบินระบบอัตโนมัติที่ระดับความสูง 1,980 ฟุต หรือราว 604 เมตร
เครื่องบันทึกข้อมูลการบินยังบันทึกว่า คันเร่งด้านซ้ายเคลื่อนที่ไปข้างหลัง ส่วนคันเร่งด้านขวาไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ขณะเครื่องบินทะยานอยู่ที่ระดับความสูง 8,150 ฟุต หรอราว 2,484 เมตร
การโต้ตอบระหว่างนักบินกับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC) ชี้ว่าเวลา 14.39.47 น. เครื่องบินเริ่มเลี้ยวไปทางซ้ายเนื่องจาก “ความผิดปกติของคันเร่ง” ที่ระดับความสูง 10,600 ฟุต หรือราว 3,231 เมตร และเจ้าหน้าที่ขอให้นักบินยกเครื่องบินขึ้นไปที่ระดับความสูง 13,000 ฟุต หรือราว 3,962 เมตร
“นักบินตอบเจ้าหน้าที่ฯ ในเวลา 14.39.47 น. ซึ่งเป็นการสื่อสารครั้งสุดท้ายจากเที่ยวบินดังกล่าว” จาห์โจโนกล่าว
เครื่องบันทึกข้อมูลการบินยังบันทึกว่า คันเร่งอัตโนมัติไม่ทำงานและเครื่องบินประสบเหตุพุ่งตกในเวลา 14.10 น. ก่อนที่กล่องดำจะหยุดทำงานในอีก 20 นาทีถัดมา ด้านข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา และธรณีฟิสิกส์ (BMKG) ชี้ว่าเส้นทางบินของเที่ยวบิน SJ 182 ไม่ได้บินผ่านพื้นที่เมฆที่มีนัยสำคัญในเวลา 14.38 น.
ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิง 737-500 ลำนี้ บินออกจากกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย มุ่งหน้าสู่เมืองปนตียานักในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก พร้อมด้วยนักบิน 2 คน ลูกเรือ 4 คน และผู้โดยสารอีก 56 คน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อินโดนีเซีย’ จ่อกู้ 2 กล่องดำ สอบเหตุเครื่องบินตก ดับยกลำ 62 ศพ
- ‘การบินไทย’ ประกาศขายเครื่องบิน 34 ลำ ปลดโบอิ้ง 747 และ 777 ออกจากฝูงบิน
- ‘ยูเครน’ ยืนยันดับ 22 ศพ สูญหาย 4 เหตุเครื่องบินทหารตก
