World News

‘มิน อ่อง หล่าย’ เปิดใจครั้งแรก เลี่ยงไม่ได้ต้อง ‘รัฐประหาร’ เมียนมา

 

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ระบุ การทำรัฐประหารต่อรัฐบาล “อองซาน ซูจี” เป็นเรื่องที่ “เลี่ยงไม่ได้”

เว็บไซต์อีเลฟเวน เมียนมา รายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา กล่าวเป็นครั้งแรก หลังทำรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนว่า สิ่งที่กองทัพทำ “สอดคล้องกับกฎหมาย” หลังจากที่รัฐบาลล้มเหลว ในการจัดการกับความข้องใจของกองทัพ เรื่องทุจริตเลือกตั้ง

มิน อ่อง หล่าย

ทั้งนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวโดยกองทัพ ยังยืนยันว่า ปัญหาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อยู่เหนือขอบเขตอำนาจของรัฐบาล ตลอดจนรัฐสภา

“หลังจากที่ได้ร้องขอไปหลายครั้งแล้ว วิธีการนี้จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำเพื่อประเทศ และเป็นเหตุผลที่เราเลือกจะทำ” พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย กล่าว ระหว่าง การประชุมกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งแต่งตั้งขึ้น หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมเสริมว่า การรัฐประหารที่เกิดขึ้นในเมียนมา เป็นไปตามการเรียกร้องของหลายฝ่าย

“กองทัพเมียนมา จำเป็นต้องทำการรัฐประหาร เพื่อเข้าควบคุมการบริหารประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า เมียนมาจะดำเนินนโยบายไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก่อนจะจัดการเลือกตั้ง และได้รัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศ”

ก่อนหน้านี้ กองทัพเมียนมาได้แต่งตั้ง นายพลมินต์ ส่วย อดีตรองประธานาธิบดี ในสมัยรัฐบาลนางซูจี ซึ่งมีความสนิทสนมกับกองทัพ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีรักษาการ ขณะเดียวกันยังมีการปลดรัฐมนตรี 24 คนในรัฐบาลชุดเดิม และแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ 11 คน

ผู้ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ส่วนใหญ่ จะเข้าไปมีบทบาทในกระทรวงสำคัญ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกิจการชายแดน

หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีของคณะรัฐประหารเมียนมาในครั้งนี้บางตำแหน่งเป็นการโยกย้าย หรือแต่งตั้งบุคคลเดิม ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสมัยนางอองซาน ซูจี ให้ทำหน้าที่ต่อไป

ในแผนการที่คณะรัฐประหารกำหนดเอาไว้นั้น รัฐบาลทหาร จะปกครองประเทศเป็นเวลา 1 ปี ก่อนจะจัดการเลือกตั้ง ส่วนนโยบายเร่งด่วนในขณะนี้ คือการรักษาความมั่นคง และความสงบของประเทศ ตลอดจนเร่งแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว อิรวดี รายงานอ้างการเปิดเผยของสถานีโทรทัศน์ ‘เมียวดี ทีวี’ กระบอกเสียงของกองทัพเมียนมาว่า ผู้นำกองทัพเมียนมา ได้ให้คำมั่นว่า กองทัพจะจัดการเลือกตั้งใหม่ ทันทีที่พวกเขาเสร็จสิ้นการบังคับใช้มาตรการฉุกเฉินต่าง ๆ

มิน อ่อง หล่าย

รู้จัก มิน อ่อง หล่าย

พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ซึ่งปัจจุบันอายุ 65 ปี  ถือว่ามีประวัติที่ไม่ธรรมดา เขาเกิดที่ทวาย ในครอบครัวชนชั้นกลาง บิดาเป็นข้าราชการ ฝ่ายวิศวกรรมโยธา  เขาเข้าเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัย ก่อนไปสมัครเรียนโรงเรียนทหารชั้นประทวน ระหว่างนั้นเจ้าตัวพยายามสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยของพม่าถึง 3 ครั้งจึงจะสอบติด

เขาขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ปี 2554 สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันชาติแห่งประเทศพม่า (Defense Services Academy-DSA) ผ่านการเป็นผู้บัญชาการรัฐมอญ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกรมทหารภาคสามเหลี่ยมในรัฐฉาน เป็นผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการทหารภาครัฐฉาน และรัฐกะเหรี่ยง และเสนาธิการร่วมกองทัพพม่า

รายงานของ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ระบุว่า นายทหารระดับสูง ของเมียนมารายนี้ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง การละเมิดสิทธิมนุษยชน ชาวโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของ เมียนมา  ซึ่งอาจเรียกว่า เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงคราม และเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำทางทหารของ เมียนมา ที่สหรัฐห้ามเข้าประเทศ

ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลก อย่าง เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ก็แบน พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมาอีก 19 คน เพื่อยับยั้งความตึงเครียด ของสถานการณ์ความรุนแรงทางเชื้อชาติ และศาสนา ใน เมียนมา เนื่องจากรายงานการสืบสวน ของสหประชาชาติ (UN) ที่ระบุว่า ต้องมีการสอบสวน และดำเนินคดี ผู้นำทางการทหาร จากกรณี ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวมุสลิมโรฮิงญา

นอกจากนี้ นายพลอาวุโสผู้นี้ ยังเกี่ยวข้อง กับกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน ของครอบครัว และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) ซึ่งถือครอง โดยกองทัพ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo