ธนาคารโลก ระบุ รู้สึกกังวลอย่างมาก ถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของเมียนมา และการทำรัฐประหาร เตือน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้โอกาสในการพัฒนาของประเทศ เสี่ยงที่จะก้าวถอยหลังครั้งใหญ่
ธนาคารโลก ออกแถลงการณ์วานนี้ (1 ก.พ.) ระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย และความมั่นคงของประชาชนในเมียนมา รวมถึง ทีมงาน และพันธมิตรของทางธนาคาร รวมถึง ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการปิดช่องทางการสื่อสาร ทั้งภายในเมียนมา และต่อโลกภายนอก
กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจรัฐบาลเมื่อวานนี้ พร้อมกับควบคุมตัวนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และผู้นำคนอื่นๆ พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี โดยกองทัพได้มอบอำนาจการปกครองให้กับพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ขณะที่สัญญาว่าจะจัดการจัดการเลือกตั้งทั่วไปหลังจากนั้น
การก่อรัฐประหารในเมียนมาได้จุดชนวนให้บรรดาผู้นำของโลกตะวันตกออกมาประณาม โดยรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขู่ว่าจะกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเมียนมาอีกครั้ง
แถลงการณ์ บอกด้วยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารโลก ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในเมียนมา พร้อมทั้งสนับสนุนเมียนมา ให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นวงกว้าง และการหลอมรวมสังคมเมียนมาให้มีความเป็นปึกแผ่นมากขึ้น
ธนาคารโลก คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจเมียนมา จะลดลงเพียง 0.5% ในปีงบประมาณ 2562/2563 จากระดับ 0.68% ของปีงบประมาณก่อนหน้า อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจเมียนมาอาจหดตัวรุนแรงถึง 2.5% หากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงยืดเยื้อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ ตอบจุดยืนรัฐประหารเมียนมา ด้าน ‘ดอน’ ยันคนไทยปลอดภัยดี
- อ้างเป็นแถลงการณ์ ‘ซูจี’ ปลุก ‘ชาวเมียนมา’ ชุมนุม ‘ต้านรัฐประหาร’
- มท. สั่งคุมเข้ม ‘ชายแดนเมียนมา’ ห้ามกลุ่มใดใช้ไทยเคลื่อนไหวหลัง ‘รัฐประหาร’
