World News

สตาร์ทอัพสหรัฐฟ้อง ‘หัวเว่ย’ พยายามขโมยเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ กับจีนในเรื่องเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ เพิ่มความรุนแรงขึ้นไปอีกระดับ หลัง “ซีเน็กซ์ แล็บส์ อิงค์” สตาร์ทอัพสหรัฐ ที่ได้รับการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ คอร์ป และเดลล์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ กล่าวหา “หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ โค” ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมจีน ขโมยเทคโนโลยีของบริษัท

16906a2a d2ee 11e8 81a4

ซีเน็กซ์ ซึ่งมีฐานดำเนินงานอยู่ในซานโฮเซ แคลิฟอร์เนีย และนายยี่เริน รอนนี่ หวง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ ในรัฐเท็กซัสว่า หัวเว่ย และบริษัทลูก “ฟิวเจอร์เว่ย” ได้วางแผนมานานหลายปีที่จะขโมยเทคโนโลยีของซีเน็กซ์

ขณะที่ทนายความของหัวเว่ย ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ที่มีขึ้นเพื่อตอบโต้กลับต่อการฟ้องร้องของหัวเว่ยเมื่อปีที่แล้ว ที่กล่าวหาซีเน็กซ์ และนายหวง ผู้เคยทำงานกับหัวเว่ย ขโมยความลับทางการค้า พร้อมเรียกร้องขอดูรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีของซีเน็กซ์

คดีฟ้องร้องดังกล่าว ถือเป็นตัวอย่างที่ผิดปกติของบริษัทจีน ที่พยายามใช้ระบบศาลสหรัฐ ในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่บริษัทอ้างว่าถูกบริษัทอเมริกันขโมยไป

ลิขสิทธิ์เทคโนโลยีที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่นั้น เป็นเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลเอสเอสดี ที่จะช่วยให้ศูนย์ข้อมูลดำเนินการบริหารจัดการข้อมูลที่เกิดขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)และแอพพลิเคชันอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีก้าวหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ที่ทำให้หน่วยงานด้านการลงทุนเงินทุนของเดลส์ และไมโครซอฟท์ เข้าลงทุนในซีเน็กซ์

สำหรับนายหวงนั้น เป็นชาวสหรัฐ ที่เกิดในจีน และเป็นศูนย์กลางการฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อกล่าวหาของทั้ง 2 บริษัท

ในคำฟ้องร้องที่ยื่นต่อศาลนั้น ซีเน็กซ์ ระบุว่า นายหวงมีชื่อเป็นผูัพัฒนานวัตกรรม ที่จดสิทธิบัตรในสหรัฐ 9 ชิ้น และอีก 13 ชิ้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่สหรัฐ
ผู้ร่วมก่อตั้งซีเน็กซ์รายนี้ เคยทำงานอยู่กับฟิวเจอร์เร่ยมาก่อน แต่บริษัทจีนรายนี้ ปฏิเสธข้อเสนอของนายหวง ที่จะขายสิทธิบัตรที่เขาถืออยู่ให้ จากนั้นฟิวเจอร์เร่ย ก็พยายามจะให้เขาทำสัญญายกให้บริษัท ภายใต้ข้อตกลงการจ้าง ซึ่งนายหวงปฏิเสธไม่ยอมทำตาม

หลังจากพบว่าฟิวเจอร์เร่ยไม่มีวัฒนธรรมองค์กรแบบผู้ประกอบการ นายหวงจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัทในเดือนพฤษภาคม 2556 และร่วมก่อตั้งซีเน็กซ์ขึ้นมาในปี 2556

นับแต่นั้นเป็นต้นมา หัวเว่ยก็เริ่มจับตามองความเคลื่อนไหวของบริษัทอย่างใกล้ขิด รวมถึง แกล้งทำเป็นให้ความสนใจที่จะเป็นลูกค้า ในความพยายามที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีของบริษัทอย่างไม่เหมาะสม

จากนั้น หัวเว่ยก็ได้ยื่นฟ้องซีเน็กซ์ และนายหวง โดยกล่าวหาว่าเขาขโมยเทคโนโลยีของบริษัทไป และดำเนินการจ้างงานพนักงานหัวเว่ย 14 รายอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งซีเน็กซ์ยอมรับในเรื่องที่ว่า พนักงานเหล่านั้นเคยทำงานให้กับหัวเว่ยจริวง แต่ปฏิเสธในข้อหาาสมรู้ร่วมคิด

ซีเน็กซ์ ระบุด้วยว่า การที่หัวเว่ยฟ้องบริษัทนั้น มีพื้นฐานอยู่บนข้อกล่าวหาที่โกหกเรื่องการอ้างสิทธิเป็นเจ้าของเทคโนโลยีของซีเน็กซ์

Avatar photo