World News

‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 200 จุด หวั่น ‘ไบเดน’ ขึ้นภาษี หาเงินจ่ายมาตรการฟื้นเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (15 ม.ค.) ปรับตัวลดลง จากการที่นักลงทุน พากันระมัดระวังตัวมากขึ้น รอดูภาคธนาคารรายงานผลประกอบการ และแผนการอัดฉีดเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ โจ ไบเดน ทำให้เกิดความวิตกว่า อาจเกิดการขึ้นภาษี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,733.54 จุด ร่วงลง 257.98 จุด หรือ 0.83% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,765.45 จุด ลดลง 30.09 จุด หรือ 0.79% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,033.02 จุด ลบ 79.62 จุด หรือ 0.61%

Stocks ๒๑๐๑๑๕

นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ  ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจให้สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้

นายไบเดนกล่าวว่า การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมนี้

ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติในสภาผู้แทนราษฎร แต่นายไบเดนอาจต้องใช้ความพยายามในการผลักดันให้ผ่านการรับรองในวุฒิสภา เนื่องจากขณะนี้พรรคเดโมแครต และรีพับลิกันมีคะแนนเสียงเท่ากันที่ 50-50  ซึ่งการผ่านมาตรการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างต่ำ 60 เสียง ทำให้นายไบเดนจำเป็นต้องพึ่งพาสมาชิกพรรครีพับลิกันอย่างน้อย 10 เสียงในการผ่านมาตรการดังกล่าว

นักลงทุนบางรายกังวลว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล ที่รวมถึงงบสำหรับการเร่งฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับชาวอเมริกันจำนวน 415,000 ด้วยนั้น จะทำให้รัฐบาลหาเงินทุนสำหรับการใช้จ่าย ผ่านการขึ้นภาษี

ตลาดยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน จากยอดค้าปลีกที่ซบเซา หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.7% ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนพฤศจิกายน สวนทางกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะทรงตัวในเดือนที่แล้ว

การร่วงลงของยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธันวาคม หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนพฤศจิกายน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเจพีมอร์แกน เชส ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ต่างเปิดเผยตัวเลขกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2563

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo