จากกรณีที่ นายจามาล คาช็อกกี (Jamal Khashoggi) อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของซาอุดิอาระเบีย และปัจจุบันเป็นนักข่าวอิสระ รวมถึงเป็นผู้เขียนบทความให้กับสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่างวอชิงตันโพสต์ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับในสถานกงสุลซาอุดิอาระเบียตั้งแต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ระหว่างที่เขาเข้าไปขอเอกสารเกี่ยวกับการหย่า เพื่อนำมาใช้ในการแต่งงานกับคู่หมั้นสาวชาวตุรกีคนใหม่ จนกลายเป็นความตึงเครียดระดับโลกไปแล้วนั้น
ล่าสุดสื่อในตุรกีได้มีการเผยแพร่ว่า สามารถเก็บหลักฐานสำคัญเป็นเสียงบันทึกการฆาตกรรมนายคาช็อกกีแล้วโดยถูกบันทึกอยู่ในแอปเปิลวอทช์ที่เขาสวมไว้ขณะเดินเข้าสถานกงสุลในเมืองอิสตันบูล พร้อมกดดันให้ทางการซาอุดิอาระเบียออกมาแถลงให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมา นายคาช็อกกีมักจะเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้กุมอำนาจคนใหม่ของซาอุดิอาระเบียอยู่หลายครั้ง
สำหรับการค้นพบไฟล์เสียงที่คาดว่าจะเป็นหลักฐานสำคัญนี้ เจ้าหน้าที่ตุรกีเผยว่าได้มาจากแอคเคาน์ไอคลาวด์ของนายคาช็อกกีนั่นเอง
ทั้งนี้ การใช้แอปเปิลวอทช์บันทึกเสียงนั้น ระบบจะสามารถส่งต่อไปยังไอโฟนได้ผ่านทางเครือข่ายบลูทูธ (หากมันอยู่ในระยะที่สามารถส่งสัญญาณถึงกันได้) และหลักฐานก่อนหน้าได้ชี้ว่าโทรศัพท์ไอโฟนของนายคาช็อกกีนั้น เขาได้มอบให้คู่หมั้นถือเอาไว้ก่อนเข้าไปในสถานกงสุลซาอุดิอาระเบีย
โดยทางการตุรกีคาดว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการสังหารนายคาช็อกกีราว 15 คน แต่ระบุด้วยว่าจะเก็บรักษาไฟล์เสียงชิ้นนี้อย่างดี และไม่ต้องการจะเผยแพร่ต่อสาธารณะ
แครี่ คอร์เดโร สมาชิกอาวุโสแห่งศูนย์ความมั่นคงอเมริกันใหม่ และอดีตเคยเป็นหน่วยข่าวกรองรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาแย้งว่า “รัฐบาลตุรกีอาจต้องเปิดเผยแหล่งข้อมูลชิ้นนี้ หากว่ารัฐบาลซาอุดีอาระเบียยังไม่มีทีท่าจะออกมายอมรับหรือดำเนินการใด ๆ”
ขณะที่คู่หมั้นของคาช็อกกี ได้มีการทวีตเล่าถึงปาร์ตี้ที่เธอเตรียมจัดให้กับเขาในวันคล้ายวันเกิด (วันเสาร์ที่ผ่านมา) รวมถึงได้เตรียมเชิญเพื่อนสนิทของเขามาร่วมงานไว้แล้ว แต่ปาร์ตี้นั้นไม่สามารถจัดได้อีกต่อไป โดยเธอได้ใส่แฮชแท็ก “WhereIsJamal” และ “mydreamwaskilled.” ลงมาด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาในเชิงเศรษฐกิจก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับประเทศมหาอำนาจของโลกอาจถึงคราวอวสาน หากซาอุดิอาระเบียไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคาช็อกกี และทางการสหรัฐอเมริกา กับอังกฤษก็อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะบอยคอตการประชุมระดับโลกที่จะจัดขึ้นในซาอุดิอาระเบียด้วย รวมถึงสื่ออย่างเอพี รอยเตอร์ เอเอฟพีก็อาจจะไม่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
