ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เปิดซื้อขายในวันนี้ (9 ต.ค.) ร่วงลงทะลุ 300 จุด จากเงินเยนแข็งค่าขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับจีน
ดัชนีนิกเคอิ เคลื่อนไหวล่าสุดร่วงลง 306.50จุด หรือ 1.29% มาอยู่ที่ 23,477.22 จุด ส่วนเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 113.03 เยนต่อดอลลาร์
นักวิเคราะห์ชี้ว่า หุ้นกลุ่มส่งออกโดนเทขายอย่างหนัก หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น ทำให้เกิดการระมัดระวังตัวในการเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มนี้
ตลาดยังจับตาสถานการณ์ในจีน หลังเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) หุ้นจีนร่วงลงอย่างหนัก จากความผิดหวังในเรื่องข้อมูลเศรษฐกิจ และความวิตกถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ จะย่ำแย่กว่าเดิม
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ที่ 26,486.78 จุด เพิ่มขึ้น 39.73 จุด หรือ 0.15% ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ปิดที่ 2,884.43 จุด ลดลง 1.14 จุด หรือ 0.04% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,735.95 จุด ลดลง 52.50 จุด หรือ 0.67%
ตลาดสหรัฐได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค และกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม แนสแด็กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์
ทางด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกนั้น เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์ก ปรับตัวลดลง 5 เซนต์ หรือประมาณ 0.09% ที่ 74.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 83.91 ดอลลาร์บาร์เรล
ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง หลังมีรายงานว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้กับบางประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ขณะที่นักลงทุนจับตาพายุเฮอร์ริเคน “ไมเคิล” ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งตะวันออกของอ่าวเม็กซิโกในวันนี้
ส่วนราคาทองคำโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 17 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 1,188.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์
