World News

‘ดาวโจนส์’ นำหุ้นสหรัฐขาขึ้น ขานรับความหวัง ‘มาตรการเศรษฐกิจ-วัคซีนโควิด’

 

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (15 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น จากความคืบหน้าในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และ ขานรับการที่หลายประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 29,959.84 จุด ปรับขึ้นมา 98.29 จุด หรือ 0.33% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,668.46 จุด ขยับขึ้นมา 20.97 จุด หรือ 0.57% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,540.09 จุด บวก 100.05 จุด หรือ 0.80%

Stocks ๒๐๐๙๑๐

ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 3.7% หลังจากสื่อรายงานว่า บริษัทจะผลิตไอโฟน จำนวน 96 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบรายปี

ขณะนี้ สหรัฐ อังกฤษ บาห์เรน แคนาดา และสิงคโปร์ได้ให้การอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์แล้ว โดยอังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐและแคนาดาได้เริ่มฉีดวัคซีนเมื่อวานนี้

รายงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ระบุว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย และเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการอนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉิน

รายงานดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า FDA จะให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการต่อวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นาในวันศุกร์นี้

คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก จะจัดการประชุมในวันพฤหัสบดีเพื่อพิจารณาและลงมติต่อการอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของโมเดอร์นาเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่ทางคณะกรรมการได้ให้การอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่ง FDA ก็ได้ให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการในวันศุกร์

โมเดอร์นาระบุว่า จากการทดลองกับอาสาสมัคร 30,000 ราย พบว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 94.5% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19

ทางด้านสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้เห็นพ้องที่จะแยกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ออกเป็นร่างกฎหมาย 2 ฉบับเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส

ฉบับแรกจะมีวงเงิน 7.48 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผู้ที่ตกงานและธุรกิจขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่อีกฉบับหนึ่งจะมีวงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือมลรัฐต่างๆ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ และพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ขณะที่เฟดซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงิน

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวลง 0.1% ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo