World News

‘โมร็อกโก’ มีอำนาจอธิปไตยเต็มรูปแบบ เหนือดินแดน ‘โมร็อกกัน ซาฮารา’

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ออกกฤษฎีกาประธานาธิบดี ประกาศเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา รับรองว่า “โมร็อกโก” มีอำนาจอธิปไตยเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ทั้งหมดของ “โมร็อกกัน ซาฮารา” 

กฤษฎีกาดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ ที่มีผลบังคับใช้ทันทีนั้น ถือเป็นการแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรก ทั้งสหรัฐ ยังแสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลโมร็อกโกอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการเปิดสถานกงสุล ที่เมืองดักลา (Dakhla) ซึ่งถือได้ว่า เป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของสหรัฐในพื้นที่นี้ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการพัฒนาสังคม รวมถึงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัย ในจังหวัดทางตอนใต้ของโมร็อกโก

shutterstock 1867119619

การแสดงจุดยืนของสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนเรื่องโมร็อกกัน ซาฮารา ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีประเทศพันธมิตร 19 ชาติแล้ว ที่่ตัดสินใจจะเปิดสถานกงสุลในจังหวัดต่างๆ ทางตอนใต้ของโมร็อกโก  รวมถึง เมืองหลัก 2 เมือง ในบริเวณโมร็อกกัน ซาฮารา คือเมืองลายูน (Laayoune) และดักลา (Dakhla)

19 ประเทศดังกล่าว รวมถึง คอโมรอส, กาบอง, เซาตูเม และปรินซิปี, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, โกตดิวัวร์, บุรุนดี, ราชอาณาจักรเอสวาตินี่, แซมเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จอร์แดน, บาห์เรน, แกมเบีย, กิน, จิบูตี, ไลบีเรีย, บูร์กินาฟาโซ, กินี-บิสเซา, อิเควทอเรียลกินี และเฮติ

1292
สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 6 แห่งโมร็อกโก

สถานกงสุลใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประจำเมืองดักลา จะถือเป็นสถานกงสุลลำดับที่ 20 ที่โมร็อกกัน ซาฮารา โดยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมปี ค.ศ. 1777 โมร็อกโกถือเป็นประเทศแรกในโลก ที่รับรองสถานะของประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่สหรัฐอเมริกาประกาศอิสรภาพ

Map of Morocco

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo