ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (14 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเดินทาง หลังการเปิดโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,292.27 จุด ทะยานขึ้น 245.90 จุด หรือ 0.82% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,693.21 จุด ปรับขึ้น 29.75 จุด หรือ 0.81% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,526.61 จุด พุ่งขึ้น 148.74 จุด หรือ 1.20%
นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มเดินทาง และหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ อย่าง สายการบิน และเรือสำราญ ขานรับข่าว สหรัฐเริ่มต้นการฉีดวัคซีนโควิดให้กับพลเมืองอเมริกันแล้ว ในวันนี้ สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความหวังถึงการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีขึ้น และจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า สภาคองเกรส จะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวระบุว่า ในวันนี้อาจจะมีการนำเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ฝ่าย ต่อสภาคองเกรส โดยจะแยกออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน เพื่อที่จะทำให้มีโอกาสที่จะได้รับความเห็นชอบมากขึ้น
ทั้งนี้ สมาชิกพรรครีพับลิกัน และเดโมแครต เห็นพ้องที่จะแยกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 908,000 ล้านดอลลาร์ ออกเป็นร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ฉบับแรกจะมีวงเงิน 7.48 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผู้ที่ตกงาน และธุรกิจขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่อีกฉบับหนึ่งจะมีวงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือรัฐต่างๆ
นักลงทุน ยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) และสิ้นสุดลงในวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ต่อไป แต่อาจเปลี่ยนแปลงวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตร ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่ระดับ 80,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สหรัฐเดินหน้าจัดส่ง ‘วัคซีนโควิด’ คาดฉีดเข็มแรกวันนี้!
- ฟันธง! เฟดคงดอกเบี้ยระดับเดิม หลังสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว
- วิเคราะห์ปี 2564 เศรษฐกิจไทยเติบโต 2.6% ห่วงปัญหาหนี้-3อุตสาหกรรมฟื้นตัวช้า