World News

‘ดาวโจนส์’ พุ่งต่อเนื่อง เกาะติดข่าวดี ‘วัคซีนต้านโควิด’

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (10 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ยังทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด แต่การที่นักลงทุนยังเทขายหุ้นเทคโนโลยี ที่ได้ประโยชน์จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง กดดันให้ “เอสแอนด์พี 500” และ “แนสแด็ก” เดินสู่ขาลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 29,236.86 จุด ปรับขึ้นมา 78.89 จุด หรือ 0.27% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,527.01 จุด ลดลง 23.49 จุด หรือ 0.66% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,474.93 จุด ดิ่งลง 238.86 จุด หรือ 2.04%

Stocks ๒๐๑๑๑๐ 1

เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุด ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายนเป็นต้นมา หลังจากไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และไบโอเอ็นเทค บริษัทยาเยอรมนี ประกาศความคืบหน้าครั้งใหญ่ในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19

ข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างปรับตัวขึ้น แต่หุ้น กลุ่มเทคโนโลยีที่เคยได้ประโยชน์ จากการที่ประชาชนต้องทำงานที่บ้าน ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่างดิ่งลงตามกัน

ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค แถลงว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้งสองบริษัทพัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน และบริษัทจะจดทะเบียนวัคซีนต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1,300 ล้านโดสในปีหน้า

นายไรอัน ริชาร์ดสัน หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ ของไบโอเอ็นเทค กล่าวว่า บริษัทจะคิดค่าวัคซีนดังกล่าวต่ำกว่าราคาตลาด และจะตั้งราคาแตกต่างกันในแต่ละประเทศ และภูมิภาค เพื่อให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก สามารถเข้าถึงวัคซีนดังกล่าว แต่ก็จะคุ้มกับความเสี่ยงทางการเงินในการลงทุนเพื่อพัฒนาวัคซีนดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากการที่นายโจ ไบเดน ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

นายไบเดนให้คำมั่นว่าเขาจะทำให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่น และจะผลักดันมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสำคัญอื่นๆ

ส่วนผลการเลือกตั้งในสภาคองเกรสนั้น ล่าสุด พรรคเดโมแครตมีแนวโน้มที่จะยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในขณะที่การแข่งขันในวุฒิสภายังคงมีความไม่แน่นอน โดยมีแนวโน้มว่าการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐจอร์เจีย อาจจะต้องตัดสินด้วยการลงคะแนนเสียงรอบสองในเดือนมกราคม

หากนายไบเดนคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ และพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็จะทำให้การขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากที่ถูกขัดขวางในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แต่ถ้าหากพรรครีพับลิกัน ยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ก็จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเช่นกัน โดยจะทำให้นโยบายการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ของนายไบเดนอาจไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ทำให้บริษัทจดทะเบียน ยังคงได้รับประโยชน์จากนโยบายลดอัตราภาษีของรัฐบาลทรัมป์ต่อไป

นอกจากนี้ การถ่วงดุลอำนาจดังกล่าว จะช่วยลดโอกาสที่รัฐบาลของนายไบเดนจะทำการออกมาตรการควบคุมกฎระเบียบสถาบันการเงิน และบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo