สำนักป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ (Cal Fire) เปิดเผยว่า แคลิฟอร์เนียเผชิญกับเหตุไฟป่าราว 8,700 ครั้ง ซึ่งได้สร้างความเสียหาย หรือทำลายสิ่งปลูกสร้างแล้วราว 10,500 แห่ง นับตั้งแต่ต้นปีนี้
รายงายระบุว่าเหตุไฟป่าส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 31 รายทั่วทั้งรัฐ และเผาทำลายพื้นที่แล้วราว 16,714 ตารางกิโลเมตร (ราว 10.44 ล้านไร่) จนถึงขณะนี้
สำนักฯ เผยว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 5,300 นาย ยังคงเดินหน้าต่อสู้เพื่อควบคุมไฟป่า 21 จุด ในแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันเสาร์ (24 ต.ค.) โดยในจำนวนนี้ 12 จุด ยังคงมีสถานการณ์รุนแรง
ด้านสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NWS) ได้ออกคำเตือนธงแดงสำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ (25 ต.ค.) เป็นต้นไป สืบเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายจากเหตุไฟป่า โดยความเร็วลมมีแนวโน้มจะอยู่ที่ 20-30 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยอาจมีลมกระโชกแรงถึง 70 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะเป็นลมที่รุนแรงที่สุดของปีนี้
สำนักฯ กล่าวว่าได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ และประสานงานกับหน่วยงานดับเพลิงในพื้นที่แล้ว เพื่อรับมือกับการคาดการณ์สภาพอากาศที่เลวร้ายจากเหตุไฟป่าข้างต้น
ขณะเดียวกัน เขตอุทยานภูมิภาคอีสต์เบย์ของแคลิฟอร์เนียตอนเหนือจะสั่งปิดพื้นที่หลายจุด เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับอันตรายจากไฟป่า
ที่มา:สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไฟป่า ‘เผา’ แคลิฟอร์เนียกว่า 7 ล้านไร่ รุนแรงกว่าปีก่อน 26 เท่า
- ‘ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย’ ลามหนัก เผาพื้นที่นับล้านเอเคอร์ ฟ้าผ่าหลายพันครั้ง
- แล้งหนักรอบ 47 ปี! ตอนใต้ ‘บราซิล’ ประกาศภาวะฉุกเฉินจากไฟป่ารุนแรง