“แอสตราเซเนกา” กลับมาทดลอง “วัคซีนโควิด -19” อีกครั้ง หลัง อย.สหรัฐ ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย ด้าน “ไทย” เจรจาความร่วมมือขอเป็นผู้ผลิต 26 ล้านโด๊ส
วานนี้ (23 ต.ค. 63) แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) บริษัทเภสัชกรรมข้ามชาติ เปิดเผยแผนการกลับมาเดินหน้าการทดลองวัคซีนทดลองป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐ ซึ่งถูกระงับชั่วคราวตั้งแต่เดือนกันยายน 2563
บริษัทระบุว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุญาตให้กลับมาดำเนินการทดลองในสหรัฐเมื่อวานนี้ หลังจากการทดลองในหลายประเทศกลับมาดำเนินการอีกครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสำนักงานฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลความปลอดภัยทั้งหมดจากการทดลองทั่วโลก และสรุปว่ามีความปลอดภัยที่จะดำเนินการทดลองต่อไป
บริษัทระบุว่า การหยุดฉีด วัคซีนโควิด-19 ในทุกการทดลองทั่วโลกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของการทดลอง โดยเปิดทางให้คณะกรรมการตรวจสอบอิสระได้ตรวจสอบข้อมูลความปลอดภัย
ถ้อยแถลงเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศรับรองข้อเสนอแนะจากการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าการทดลองนี้มีความปลอดภัยที่จะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยบริษัทคาดว่า จะได้ผลการทดลองระยะปลายช่วงปลายปีนี้
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับประเทศไทยมีแนวทางการเจรจาเพื่อขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต วัคซีนโควิด-19 จากผู้ผลิตวัคซีนที่กำลังทดสอบ วัคซีนโควิด-19 ในคนระยะที่ 3 และวัคซีนมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จทั้งในเอเชียและยุโรป เช่น บริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด ที่มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด
โดยเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาได้มีการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการผลิตและจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ร่วมกับบริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด ระหว่างหน่วยงานและองค์กรที่สำคัญ ดังนี้ คือ กระทรวงสาธารณสุข, บริษัทสยาม ไบโอไซเอนซ์ จำกัด, บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด และ บริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด
ขอบข่ายของหนังสือแสดงเจตจำนงครอบครอบคลุมถึงความร่วมมือ ในด้านการพัฒนาศักยภาพการผลิตวัคซีนของหน่วยงานภายในประเทศ โดยให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นฐานการผลิต วัคซีนโควิด-19 แห่งหนึ่งของบริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด และมีการตกลงที่จะยอมรับความเสี่ยงในการผลิตร่วมกัน รวมทั้งการประสานกับหน่วยงานควบคุมกำกับทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์วัคซีนได้
แนวทางนี้มีการเจรจาเพื่อให้เกิดการลงนามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 เพื่อเตรียมการจัดหาวัคซีนจำนวน 26 ล้านโด๊ส คิดเป็น 20% ของประชากร ให้แก่ประชากรไทย
ขณะนี้ ทุกภาคส่วนได้เร่งดำเนินการเจรจาต่อรองในประเด็นสำคัญ เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้แก่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ด่วน! แบงก์ชาติปรับยา 2 สูตรใหม่ ‘ลดดอก-พักหนี้’ ใช้ถึงกลางปี 64 เพื่อลดผลกระทบโควิด
- ‘ญี่ปุ่น’ เล็งเพิ่มวันหยุดปีใหม่ ลดคนหนาแน่น สกัดโควิด
- 9 ‘เทรนด์ท่องเที่ยว’ หลังโควิด ที่กระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก