ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (7 ต.ค.) กลับมาทะยานสูงขึ้นอีกครั้ง ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เปลี่ยนใจ กลับมาให้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ หลังสั่งระงับการเจรจาระหว่างทำเนียบขาว และพรรคเดโมแครตไปก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 28,194.23 จุด ทะยานขึ้น 421.47 จุด หรือ 1.52% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,404.38 จุด ปรับขึ้น 43.43 จุด หรือ 1.29% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 11,314.58 จุด บวก 159.98 จุด หรือ 1.43%
วันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความ ว่า เขาจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายฉบับ ซึ่งจะเยียวยาประชาชน และบางภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขามีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ระงับการเจรจากับพรรคเดโมแครต เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
ทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรส อนุมัติมาตรการต่างๆ ที่เขาจะลงนาม รวมถึง การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ การอัดฉีดวงเงิน 25,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และวงเงิน 135,000 ล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย
การตัดสินใจดังกล่าวของทรัมป์ ยังเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากสหรัฐ จำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงิน และการคลัง เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น มิฉะนั้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ การตัดสินใจดังกล่าว ยังเกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาที่ชะงักงันระหว่างนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เกี่ยวกับวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อเยียวยาประชาชน และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทำเนียบขาวเสนอวงเงิน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์
นักลงทุน ยังจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนกันยายนในวันนี้ รวมทั้งการประชันวิสัยทัศน์ของคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน และนางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ในการดีเบต ที่จะมีขึ้นในวันนี้ เวลา 21.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- WTO คาด ‘การค้าโลก’ ปีนี้หดตัว 9.2% เซ่นพิษโควิด-19
- เลื่อนรับ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ ล็อตแรก เลี่ยงชน ‘เทศกาลกินเจ’ ภูเก็ต
- เกินคุ้ม! อัดฉีด 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 หมื่นล้าน ดันเงินเข้าระบบ 2 แสนล้าน