ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) ทะยานสูงขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และเทคโนโลยี ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ทำเนียบขาว และสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 27,915.24 จุด พุ่งขึ้น 462.58 จุด หรือ 1.69% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,383.25 จุด ปรับขึ้น 47.78 จุด หรือ 1.43% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 11,258.02 จุด ทะยานขึ้นมา 172.78 จุด หรือ 1.56%
ก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ดิ่งลงกว่า 200 จุด หลังจากที่ผลสำรวจพบว่า นายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ในการดีเบตวันนี้
เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า หากนายไบเดนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เขาจะยกเลิกมาตรการปรับลดอัตราภาษีของทรัมป์ ด้วยการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 28% จากเดิมที่ทรัมป์ ปรับลดจาก 35% สู่ระดับ 21% ในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
อย่างไรก็ดี เมื่อตลาดเปิดทำการ นักลงทุนกลับไปให้ความสนใจกับท่าทีของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐ ที่ต่างแสดงความหวังว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลง 2 ฝ่าย ในเรื่องมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจรอบใหม่ จากการหารือกันในวันนี้
นางเพโลซีระบุว่า พรรคเดโมแครตเสนอมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ และทางพรรคก็มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ทำเนียบขาว และสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงกันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
เช่นเดียวกับนายมนูชิน ที่ระบุว่า จะใช้ความพยายามอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง และมีความหวังว่า 2 ฝ่าย จะประสบความสำเร็จ ซึ่งเขาคิดว่า น่าจะประนีประนอม หาทางออกร่วมกันได้
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่สูงเกินคาด ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 749,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 650,000 ตำแหน่ง
ADP ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนสิงหาคม มาอยู่ที่ระดับ 481,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 428,000 ตำแหน่ง โดยการจ้างงานในเดือนกันยายน ได้แรงหนุนจากภาคก่อสร้าง ภาคขนส่ง และภาคสาธารณูปโภค
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย สำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไตรมาส 2 ปีนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 31.4% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับ จีดีพี ประจำไตรมาส 2/2563 ดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระบุว่าเศรษฐกิจหดตัวลง 31.7% และดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระบุว่าเศรษฐกิจหดตัวลง 32.9%
การหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทั้งในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ได้ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เชลล์’ เล็งเลิกจ้าง 9,000 คน เหตุ ‘โควิด’ ดันบริษัทเร่งลงทุน ‘พลังงานสีเขียว’
- หนี้ครัวเรือนไตรมาส 2 พุ่ง 83.8% ต่อจีดีพีสูงสุดในรอบ 18 ปี
- พรุ่งนี้หวยออก! เปิดสถิติหวย 1 ตุลาคม ย้อนหลัง 20 ปี เช็คที่นี่
