World News

‘ดาวโจนส์’ ดิ่งเกือบ 900 จุด กังวลล็อกดาวน์รอบ 2- ขัดแย้งมาตรการอัดฉีด ฉุดหุ้นร่วง

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ 3 ดัชนีหลัก ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ และสภาคองเกรสยังหาทางบรรลุข้อตกลง เพิ่มมาตรการอัดฉีดไม่ได้ ทำให้เกิดความวิตก ถึงผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 26,770.09 จุด ดิ่งลง 887.33 จุด หรือ 3.21% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,234.01 จุด ลดลง 85.46 จุด หรือ 2.57% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,567.66 จุด ร่วงลง 225.62 จุด หรือ 2.09%

Stocks ๒๐๐๙๒๑

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวลงในวันนี้ เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

นักลงทุนกังวลว่าอาจมีการล็อกดาวน์ระลอกใหม่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ  โดยในขณะนี้ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 31 ล้านราย ซึ่งสหรัฐเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลกจำนวนกว่า 7 ล้านราย

ตลาดยังมีความวิตกต่อความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาว ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ การเสียชีวิตของนางรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐ ก็อาจกระทบต่อกระบวนการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดแทนนางกินส์เบิร์กในวันศุกร์ หรือวันเสาร์นี้

ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มธนาคารต่างก็ทรุดตัวลง หลังรายงานข่าวของเว็บไซต์สมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ระบุว่า ธนาคารหลายแห่ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมโอนเงิน ที่ต้องสงสัย โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากเอกสารของเครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐ (FinCen) ที่หลุดออกไปถึงสื่อของสหรัฐ และถูกแชร์เป็นวงกว้างโดย ICIJ

รายงานระบุว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทั่วโลก ได้ปล่อยให้มีการโยกย้ายเงินผิดกฎหมายจำนวนมากเป็นเวลานานเกือบ 20 ปี แม้จะมีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินดังกล่าวก็ตาม

เอกสารลับของ FinCen ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในระหว่างปี 2542-2560 ซึ่งเงินเหล่านี้ได้รับอนุมัติการทำธุรกรรมโดยหน่วยงานภายในของสถาบันการเงินที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย

นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในวันนี้ว่า เขาจะไม่อนุมัติการขายกิจการของติ๊กต็อก (TikTok) ให้แก่ออราเคิล คอร์ป และวอลมาร์ท อิงค์ หากไบท์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก ยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo