World News

นิกเคอิพุ่งแรงรับเยนอ่อน-หุ้นสหรัฐบวก

ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้(14 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินเยนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกดีดตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ด้วย

000 16Z6QS

ดัชนีนิกเคอิ เคลื่อนไหวล่าสุดปรับขึ้นมา 168.32 จุด หรือ 0.74% มาอยู่ที่ 22,991.22 จุด ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 112.01 เยนต่อดอลลาร์

เงินเยนที่อ่อนค่าลง ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก โดยราคาหุ้นฮอนด้าปรับขึ้น 0.84% มาอยู่ที่หุ้นละ 3,205 เยน และแคนอนปรับขึ้น 0.44% ที่ 3,421 เยน

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดมีแรงเข้าซื้ออย่างมากในช่วงเช้าวันนี้ ตามการทะยานขึ้นของหุ้นสหรัฐ ที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจีนตอบรับคำเชิญของสหรัฐ ในการเจรจาการค้ารอบใหม่ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้น รวมทั้งตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะลดแนวโน้มในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,145.99 จุด เพิ่มขึ้น 147.07 จุด หรือ 0.57% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,013.71 จุด เพิ่มขึ้น 59.48 จุด หรือ 0.75% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,904.18 จุด เพิ่มขึ้น 15.26 จุด หรือ 0.53%

ข่าวการผลิตพุ่งกดราคาน้ำมันร่วง

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคมร่วงลง 1.78 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.56 ดอลลาร์ หรือ 2% มาอยู่ที่ 78.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบร่วงลง หลังรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันในตลาดโลกพุ่งแตะระดับ 100 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนปริมาณน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปคพุ่งขึ้น 420,000 บาร์เรลต่อวัน ที่ 32.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากซาอุดีอาระเบีย ไนจีเรีย ลิเบีย และอิรัก แม้เวเนซุเอลา และอิหร่านลดการผลิต

ทั้งนี้ไออีเอ คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากกลุ่มประเทศนอกโอเปกจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า นำโดยการผลิตน้ำมันจากสหรัฐ

ทองคำปรับลงเล็กน้อย

ทางด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปรับตัวลดลง หลังข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มคลี่คลายลง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาดในระหว่างวัน โดยสัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,208.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight